บทความ

ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม





ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ


เรื่องที่ 86


ซินาหรือผิดประเวณีนั้นเป็นที่ต้องห้าม


การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ การสดุดีและความศานติจงมีแด่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ควรได้รับการภักดีนอกจากอัลลอฮฺเพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีหุ้นส่วนอันใดสาหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุหัมมัดคือบ่าวของอัลลอฮฺและเป็นศาสนทูตของพระองค์...


อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า





ความว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่


4


เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทาเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสาหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัล-ฟุรกอน : 68-69 )


อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า





ความว่า “และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษา (ไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของ) อวัยวะเพศของพวกเขา (โดยไม่ผิดประเวณี) เว้นแต่แก่บรรดาภรรยาของพวกเขา หรือที่มือขวาของพวกเขาครอบครอง (คือทาสี) ในกรณีเช่นนั้นพวกเขาจะไม่ถูกตาหนิ ฉะนั้นผู้ใดแสวงหาอื่นจากนี้ ชนเหล่านั้นพวกเขาก็เป็นผู้ละเมิด” (อัล-มุอฺมินูน : 5-7)


อัลลอฮฺ สุบหานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า





5


ความว่า “และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี แท้จริงมันเป็นการลามกและทางอันชั่วช้า” (อัล-อิสรออฺ : 32)


บรรดาโองการที่กล่าวมาข้างต้นบ่งชี้ถึงคุณลักษณะของบ่าวผู้ศรัทธามั่นต่ออัลลอฮฺด้วยคุณลักษณะที่ดีงามยิ่ง เช่น ไม่ตั้งภาคีด้วยการภักดีต่อพระเจ้าอื่นร่วมกับอัลลอฮฺ ไม่คร่าชีวิตของผู้อื่น และรักษาอวัยวะเพศจากการกระทาชั่วช้าลามก


และอัลลอฮฺได้เตือนผู้ที่ละเมิดไปกระทาสิ่งเหล่านี้ด้วยกับโทษอันมหันต์และการลงโทษในไฟนรกที่ทวีคูณและน่าอัปยศยิ่งนักหากเขาไม่กลับเนื้อกลับตัว และประกอบคุณงามความดีหลังจากนั้น ดังที่พระองค์ตรัสว่า





ความว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้ เว้นแต่


6


เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทาเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสาหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัว และศรัทธาและประกอบการงานที่ดี เขาเหล่านั้นแหละอัลลอฮจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี และอัลลอฮเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ และผู้ใดกลับเนื้อกลับตัวและกระทาความดี แท้จริงเขากลับเนื้อกลับตัวเข้าหาอัลลอฮอย่างจริงจัง” (อัล-ฟุรกอน : 68-71)


อนึ่งการทาซินา (ผิดประเวณี) เป็นความผิดอันมหันต์


(บาปใหญ่) โดยที่อัลลอฮฺกล่าวพร้อมกับการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ และการฆ่าชีวิตผู้อื่น เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบครอบครัว ทาลายระบบวงศ์ตระกูลของมนุษย์โดยสิ้นเชิง ละเมิดข้อห้ามของอัลลอฮฺ เป็นการจุดไฟแห่งความโกรธแค้นและการเป็นศัตรู เป็นการสร้างความเสียหายแก่ภรรยา ลูกสาว พี่สาว น้องสาวของผู้อื่น และเป็นการสร้างความเสียหายบนหน้าแผ่นดินนี้


7


ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงกาหนดบทลงโทษโทษอย่างหนักแก่ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว นั่นคือ ด้วยการฆ่าสถานเดียว และรูปแบบการฆ่าที่แตกต่างไปจากความผิดอื่นๆ นั่นคือการฝังครึ่งตัวแล้วขว้างด้วยก้อนหินจนกระทั่งเสียชีวิต


ท่านอิหม่ามอัล-บุคอรียฺและอิหม่ามมุสลิมได้บันทึกหะดีษจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนู มัสอูด เล่าว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า





ความว่า “ไม่อนุญาตแก่ผู้ใดที่จะฆ่าชีวิตของมุสลิมที่กล่าวปฏิญาณว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าของเขา และฉันเป็นศาสนทูตของอัลลอฮฺ เว้นแต่หนึ่งในสามกรณีต่อไปนี้ คือ ผู้ผิดประเวณีที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ผู้ที่ฆ่าชีวิตผู้อื่น และผู้ที่มุรตัดออกจากศาสนาอิสลาม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6878 และมุสลิม หมายเลข : 1676)


8


ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้ระบุความเสียหายแก่ผู้ที่นาพาตนเองลงสู่บ่วงแห่งการซินาว่าเขาผู้นั้นมีศรัทธาที่อ่อนมากขณะที่เขาทาซินา





ความว่า “ผู้ผิดประเวณีจะไม่ทาผิดประเวณีในขณะที่เขาเป็นผู้ศรัทธา ณ เวลาที่เขากระทาการผิดประเวณีอยู่นั้น” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 6809)


และอิหม่ามอัล-บุคอรียฺได้รายงานหะดีษในคืนที่ท่านนบีอิสรออฺและเมี๊ยะรอจว่า


ความว่า “มะลักญิบรีล และมีกาอีลได้มาหาท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม แล้วทั้งสองนาท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งคล้ายเตาเผา ผู้รายงานพูดว่า


9


ฉันคิดว่าท่านได้พูดว่า ” ทันใดนั้นมีเสียงดังกึกก้องเล็ดลอดออกมา เรามองเห็นกลุ่มคนทั้งผู้ชายและผู้หญิงในสภาพที่เปลือยกาย โดยที่มีไฟเผาไหม้จากเบื้องล่างของพวกเขา เมื่อไฟได้เผามาถึง พวกเขาก็ร้องโอดครวญด้วยเสียงที่ดังทรมาน เนื่องจากความร้อนจัดของไฟ ฉันจึงถามญิบรีลว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกัน? ญิบรีลบอกว่า พวกเขาคือผู้ที่ทาผิดประเวณีทั้งผู้ชายและผู้หญิง” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 7048)


ด้วยเหตุนี้ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงได้ทาสัญญากับบรรดาสาวกของท่านว่าอย่าได้ถลาตัวลงไปกระทาความชั่วชนินี้ อุบาดะฮฺ อิบนุ ศอมิต เล่าว่า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวกับสาวกกลุ่มหนึ่งของท่านว่า





ความว่า “ท่านทั้งหลายพึงสัญญากับฉันเถิดว่าจะไม่มีการตั้งภาคีใดๆ ร่วมกับอัลลอฮฺ และจะไม่ลักขโมย และจะไม่ผิด


10


ประเวณี” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 18 และมุสลิม หมายเลข : 1709)


อิหม่ามอะหมัด อิบนุ หัมบัล กล่าวว่า “ฉันไม่เห็นว่าหลังจากการฆ่าชีวิตผู้อื่นแล้วจะมีบาปอันใดที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่าการผิดประเวณี”


อิหม่ามอัล-มุนซิรียฺ กล่าวว่า “มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่ดื่มสุราเป็นนิจเมื่อจบชีวิตลง โทษของเขาไม่ต่างไปจากผู้ที่กราบไหว้เทวรูป แต่ผู้ที่ผิดประเวณีจะถูกลงโทษอย่างหนักยิ่งไปกว่าโทษการดื่มสุรา”


สื่อที่นาไปสู่การผิดประเวณี


เมื่ออัลลอฮฺได้ห้ามการผิดประเวณี พระองค์จึงห้ามการกระทาใดๆ ที่เป็นหนทางนาไปสู่การผิดประเวณีด้วย อาทิเช่น


1. ห้ามการมองเพศตรงข้าม


อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสว่า





ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุหัมมัด) แก่บรรดามุอฺมิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่า และให้พวกเขารักษาอวัยวะเพศของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทา” (อัล-นูร : 30 )


อนึ่งการมองนั้นเกิดขึ้นได้ในหลายๆ โอกาส เช่น ในตลาด ในสถานที่สาธารณะ ตามสื่อต่างๆ เป็นต้น


2. ห้ามสตรีออกจากบ้านด้วยชุดแต่งกายที่เย้ายวน หรือใช้สิ่งที่มีกลิ่นหอมหวนชวนชม


อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า





ความว่า “และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอและอย่าได้โอ้อวดความงาม (ของพวกเธอ) ดังเช่นการอวดความงาม (ของพวกสตรี) ในสมัยงมงายยุคก่อน” (อัล-อะหฺซาบ : 33)


3. ห้ามผู้ชายที่ไม่ใช่มะหฺร็อมเข้าไปหาผู้หญิง


12


และผู้ชายที่อันตรายต่อผู้หญิงมากที่สุด ได้แก่ผู้ชายที่เป็นคนใกล้ชิดของสามี และญาติๆ ของบิดามารดาของนาง เพราะพวกเขาเหล่านั้นสามารถเข้าออกในบ้านได้อย่างสะดวกและไม่เป็นที่สงสัย ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกาชับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดว่า





ความว่า “ท่านทั้งหลายอย่าได้เข้าไปหาเหล่าสตรีเลย ชายชาวอันศอรคนหนึ่งถามว่า แล้วญาติฝ่ายชายของสามีล่ะเข้าได้หรือเปล่า? ท่านตอบว่า ญาติฝ่ายชายของสามีก็เช่นเดียวกับความตาย” (ในเมื่อความตายย่างกรายเข้ามาโดยไม่รู้ตัวฉันใด อันตรายของพี่หรือน้องชายสามีก็อันตรายฉันนั้น-ผู้แปล) (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 5232 และมุสลิม หมายเลข : 2172)


4. การพิพากษาที่ไม่เป็นธรรม


พฤติกรรมของศาลตัดสินในบางสังคมที่นากฎหมายมาใช้กับผู้ที่อ่อนแอ แต่ละเว้นจากผู้มีอานาจ หรือเป็นที่รู้จักกันใน


13


นาม “กฎหมายสองมาตรฐาน” อันนี้ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทาให้การผิดประเวณีเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง พฤติกรรมเช่นนี้เป็นพฤติกรรมของชาวคัมภีร์ก่อนหน้าพวกเรา ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกล่าวว่า





ความว่า “แน่แท้กลุ่มชนที่มาก่อนหน้าพวกเจ้าถูกทาลายมาแล้ว อันเนื่องจากพวกเขาไม่ดาเนินคดีแก่พวกเจ้าขุนมูลนายที่ลักขโมย แต่จะดาเนินคดีกับคนที่อ่อนแอในสังคม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 3475 และมุสลิม หมายเลข : 700)


5. คนหนุ่มสาวแต่งงานล่าช้า หรือการแต่งงานที่แสนยากลาบาก


ด้วยภาวะสังคมที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ หากวัยรุ่นคนใดไม่มีหลักการของศาสนา หรือไม่มีศรัทธาที่คอยควบคุมตัวของเขา เขาอาจตกไปอยู่ในวังวนอันแสนชั่วนี้ได้ ซึ่งนาไปสู่การเสียศักดิ์ศรีในโลกนี้ และความทรมานในโลกหน้า ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า





ความว่า “โอ้หนุ่มสาว ผู้ใดที่มีความสามารถจะแต่งงานได้ พึงแต่งงานเถิด เพราะการแต่งงานช่วยลดสายตาได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยรักษาอวัยวะเพศได้อย่างดียิ่ง” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 5066 และมุสลิม หมายเลข : 1400)


และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวอีกว่า





ความว่า “เมื่อมีผู้ที่พวกท่านพอใจในศาสนาและมารยาทของเขามาสู่ขอบุตรสาวของท่าน พึงแต่งงานแก่เขาเถิด มิเช่นนั้นจะก่อให้เกิดฟิตนะฮฺและเป็นบ่อนทาลายบนหน้าแผ่นดินอย่างถ้วนหน้า” (บันทึกโดยอัต-ติรมิซียฺ หมายเลข : 1084)


6. เครื่องดนตรี และเสียงเพลงมีเกลื่อนเมือง


เมือเครื่องดนตรีและสิ่งเย้ายวนมีกระจายอยู่เต็มบ้านเมือง ละครน้าเน่าและเสียงเพลง ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่


15


เป็นสื่อนาไปสู่การผิดประเวณีไปในทุกแห่งหนของสังคม อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสว่า





ความว่า “แท้จริงบรรดาผู้ชอบที่จะให้เรื่องบัดสีแพร่หลายไปในกลุ่มของผู้ศรัทธานั้น พวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างเจ็บปวดทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และอัลลอฮฺทรงรอบรู้ยิ่งโดยที่พวกเจ้าไม่รู้” (อัล-นูร : 19)


7. สามีไม่มีความสื่อสัตย์ต่อภรรยา


สามีบางคนไม่มีความซื่อสัตย์ต่อภรรยาด้วยการไปมีเพศสัมพันธุ์กับหญิงอื่นโดยผิดหลักการ อันเป็นเหตุทาให้ภรรยาบางคนประชดด้วยการแอบไปมีชู้ หรือมอบกายแก่ผู้ชายอื่นเช่นกัน มีคติสอนใจจากบทกวีหนึ่งว่า


“ชายใดที่วางตัวอย่างไร้ค่า ทาสิ่งที่ต่าช้าน่าบัดสี


ยอมเสียค่าซินาอันมากมี ยังเป็นหนี้ที่ต้องชดอย่างเฉียบพลัน


16


พึงราลึกเถิดว่าในคืนวัน ถูกโดนตีท้ายครัวแค่ร้อยเดียว”


พี่น้องที่มีเกียรติ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากสามีที่ฝ่าฝืนคาสั่งของอัลลอฮฺด้วยการทาตัวชั่วช้าลามก ผิดประเวณีกับผู้ที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเอง ดังนั้นใครก็แล้วแต่ที่ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเขาจะได้รับการตอบแทนในความผิดที่กระทาไว้อย่างสาสม และรับผลความผิดของผู้ที่ปฏิบัติตามเขาด้วยอีกเช่นกัน โดยที่ผลตอบแทนของผู้กระทาไม่ได้ลดหย่อนลงแต่อย่างใดเลย


เตือนภัย.. โทรศัพท์กล้องถ่าย


ปัจจุบันมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มีกล้องถ่ายในตัว เป็นเทคโนโลยีที่อันตรายอย่างมาก ผู้หญิงบางคนถ่ายรูปหรือวิดีโอตัวเองลงไป แล้วกลายเป็นภาพหลุดที่สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติประวัติและศักดิ์ศรีของตนเองรวมถึงวงศ์ตระกูล กี่ครอบครัวมาแล้วที่บ้านต้องพังทลาย กี่ครอบครัวมาแล้วที่ต้องแยกร้างกันไป และกี่ปัญหาในชีวิตอันมากมายที่เกิดจากโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ นี่เอง จึงเป็นการสมควรที่ผู้ศรัทธาต้อง


17


เตือนภรรยาให้ระวังจากการใช้โทรศัพท์ในลักษณะเช่นนี้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า





ความว่า “ทุกคนมีหน้าที่ๆ ต้องรับผิดชอบ และจะต้องได้รับการสอบสวนในหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา ผู้นาต้องรับผิดชอบดูแลผู้อยู่ใต้ปกครอง ซึ่งเขาต้องถูกสอบถามต่อหน้าที่อันนั้น สามีก็ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัวของเขา และต้องถูกสอบสวนในหน้าที่ๆเขารับผิดชอบ” (บันทึกโดยอัล-บุคอรียฺ หมายเลข : 2554 และมุสลิม หมายเลข : 1829)


والمد لله ب العالمين ،


وصلى الله وسلم عَ نبينا محمد وعَ آل وصحبه أجمعين .



กระทู้ล่าสุด

ความแข็งกระด้างของหัว ...

ความแข็งกระด้างของหัวใจ

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ั ...

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ัล-หิจญ์รฺ อายะฮทฺ ี่ ๔๕

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อ ...

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อื่น

ความวุ่นวายและการทดสอ ...

ความวุ่นวายและการทดสอบ แห่งโลกดุนยา