เราะมะฎอน กาวแรกสูการเปลี่ยนแปลงชีวิต
ดวยพระนามของอัลลอฮฺ ผูทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
“เราะมะฎอน” กาวแรกสูการเปลี่ยนแปลงชีวิต
มวลการสรรเสริญเปนของอัลลอฮฺ ความจําเริญและความ
ศานติจงมีแดทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ฉันขอ
ปฏิญาณวาไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองคเดียว โดยไมมีภาคี
ใดๆ สําหรับพระองค และฉันขอปฏิญาณวาทานนบีมุหัมมัดคือบาว
และศาสนทูตของพระองค
“เราะมะฎอน” เปนเทศกาลอันยิ่งใหญสําหรับประชาชาติ
มุสลิมเทศกาลหนึ่ง ที่ปฏิบัติกันมาเปนประจําทุกป และถือเปนเทศกาลที่
มุสลิมทุกคนจะมีความกระตือรือรนเปนพิเศษ ในการแสดงความ
จงรักภักดีตอพระผูเปนเจา รวมทั้งแสดงถึงความตั้งใจและขัดเกลาตัวเอง
เพื่อใหไดมาซึ่งความโปรดปรานจากผูใหชีวิต และการตอบรับการงาน
ตางๆ จากพระองค ในการแสดงความจงรักภักดีตออัลลอฮฺในเวลานี้นั้น
เหลามุสลิมผูศรัทธาจักตองปฏิบัติภารกิจหนาที่ที่ตองกระทําในเดือนเราะ
มะฎอนใหสมบูรณครบถวน เพื่อหวังในความโปรดปรานและความพึงพอ
พระทัยของพระองค
จึงเปนหนาที่ของมุสลิมทุกคนที่ตองทบทวนวาในชวงเดือนเราะ
มะฎอนปนี้ เขาจะตองเตรียมตัวและปฏิบัติตัวอยางไรบาง ? เพื่อใหการ
3
ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนปนี้ เปนไปอยางครบถวนสมบูรณกวาทุกๆ
ปที่ผานมา หรือจะยอมใหเราะมะฎอนปนี้ผานลวงเลยไปตามสภาพของ
ทุกๆ ปโดยที่ยังไมมีอะไรเปลี่ยนแปลง เหมือนที่ใครหลายๆ คนเคยปฏิบัติ
กันมากอนหนานี้หรือเปลา? หรือเราจะเพิ่มพูนซึ่งคุณงามความดีและ
ปฏิบัติอะมัลอิบาดะฮฺทุกชนิดโดยมีความเขาใจ มีความบริสุทธิ์ใจและมี
คุณภาพมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหลานี้นั้นจะนําเราไปสูความหอมหวานของการ
ไดรับความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺผูทรงสิทธิ์แหงการตอบแทน
สําหรับทุกๆ คนที่ไดสัญญาไวกับอัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอา
ลา วาเราเปนผูศรัทธาที่เที่ยงแทแลวนั้น การปฏิญาณตนวา “ลาอิลา
ฮะอิลลัลลอฮฺ มุหัมมะดุรฺเราะสูลุลลอฮฺ” เพียงอยางเดียวยอมไมสามารถ
ที่จะยืนยันถึงคํามั่นสัญญานั้นได หากแตขึ้นอยูกับการปฏิบัติและ
ดํารงชีวิตภายใตหลักการของอิสลามที่ไดสั่งใชในเรื่องการดํารงไวซึ่งการ
ละหมาด การบริจาคซะกาต การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนและการ
ประกอบพิธีหัจญตางหาก และยอมปฏิเสธไมไดวา การถือศีลอดในเดือน
เราะมะฎอนเปนหลักการของอิสลามประการหนึ่งซึ่งมีสถานภาพ
เหมือนกับการละหมาด เพียงแตวาการสั่งใชใหถือศีลอดนั้นถือปฏิบัติใน
เดือนเราะมะฎอนเพียงเดือนเดียวในรอบหนึ่งป ไมใชปฏิบัติทุกวันดังเชน
การละหมาด ดวยเหตุนี้ ยอมเปนหนาที่ของมุสลิมทุกคนที่ตองศึกษาและ
ทบทวนวาการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนนี้มีความสําคัญอยางไร และ
เราจะตองปฏิบัติตัวอยางไรใหเดือนเราะมะฎอนของทุกปมีคุณภาพและ
4
สมบูรณแบบมากที่สุด รวมไปถึงประสบความสําเร็จบรรลุถึงเปาหมาย
ที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลาไดกําหนดไว
มุสลิมสวนใหญในปจจุบันเมื่อเราะมะฎอนมาเยือน ก็จะมีการ
จัดงานตอนรับเราะมะฎอนกันอยางลนหลาม ไมตางอะไรกับงานเฉลิม
ฉลองรื่นเริงที่มีกันอยูทั่วไป หาไดคํานึงถึงการตอนรับดวยกับการทําอิบา
ดะฮฺเหมือนดั่งเชนวัตถุประสงคที่ถูกสั่งใชจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอา
ลาไม ความกระตือรือรนของมุสลิมในเดือนเราะมะฎอนนี้มักจะไปในเชิง
ของวัตถุ ความบันเทิง อาหารที่เอร็ดอรอย มากกวาการขัดเกลาจิตใจ
ดวยกับอะมัลอิบาดะฮฺ และนั่นคือสภาพที่แทจริงที่ปรากฏอยูในวิถีชีวิต
ของมุสลิมเราในปจจุบันที่มีใหเห็นอยูทั่วไป แตสําหรับมุสลิมอีกบางสวน
ที่ยังคงดํารงไวซึ่งวัตถุประสงคที่แทจริงของเดือนเราะมะฎอนนั้น จะใช
โอกาสนี้ในการเอาชนะกิเลสและอารมณอันใฝต่ําของตนเอง มุงมั่นใน
การแขงขันกันทําความดีใหไดมากและดีที่สุด ปฏิบัติอิบาดะฮฺทุกรูปแบบ
เทาที่จะสามารถทําได ซึ่งเปนสิ่งที่คอนขางจะหาดูไดยาก
ณ ปจจุบัน สังคมมุสลิมสวนใหญยังคงละเลยและขาดการให
ความสําคัญตอการศึกษาและการเตรียมตัวเพื ่อเขาสูเดือนเราะมะฎอน
อยางถูกตองและมีเปาหมายที่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอา
ลา ไมไดปลอยใหมุสลิมศึกษาอยางยากลําบากใดๆ เลย ในทางกลับกัน
เปาหมายของการถือศีลอดไดถูกระบุไวอยางชัดเจนแลวในอัลกุรอาน ดัง
ที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ไดดํารัสวา
ความวา “โอบรรดาผูศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นไดถูก
กําหนดแกพวกเจาแลว เชนเดียวกับที่ไดถูกกําหนดแกบรรดาผู
กอนหนาพวกเจามาแลว เพื่อวาพวกเจาจะไดยําเกรง” (สูเราะฮฺ อัล
บะเกาะเราะฮฺ : 183)
เห็นไดอยางประจักษชัดวา อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ได
แจกแจงไวอยางชัดเจนในโองการนี้วา การถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน
นั้น “เพื่อหวังที่จะใหบาวของพระองคมีความยําเกรง”
“โอบรรดาผูศรัทธาทั้งหลายเอย” ทุกครั้งเมื่อมีการเรียกรอง
ดวยประโยคนี้ สําหรับผูศรัทธาแลวยอมตองเอาใจใสและตระหนักให
มากๆ รวมไปถึงการใหความสําคัญกับประโยคนี้ในฐานะที่เราเปนผู
ศรัทธา แตหากผูใดที่ไดยินคําเรียกรองนี้แลวยังไมรูสึกอะไรและไมเห็นถึง
ความสําคัญของมัน ก็แสดงวาเขาก็ยังไมใชผูศรัทธาที่แทจริง เราจะตอง
ตระหนักอยูเสมอวาเราอยูในสถานะอะไร? หนาที่ของเราคืออะไร? อีหมา
นของเราในวันนี้เปนอยางไร ?และเราเปนผูศรัทธาที่สมบูรณแบบแลว
หรือยัง? การเริ่มตนดวยประโยคที่เรียกรองถึงบรรดาผูศรัทธาจึงเปนสิ่งที่
บงชี้วาไดมีบทบัญญัติที่เกี่ยวของกับผูศรัทธาโดยตรง ซึ่งจะกลาวถึงเรื่อง
การปฏิบัติซึ่งเปนคําสั่งที่อัลลอฮฺทรงสั่งใชใหผูศรัทธานั้นนอมรับ
– โอบรรดาผูศรัทธาทั้งหลายได
ถูกกําหนด”
อันที่จริงแลวคําวา َ بِت ُ ك มาจากรากศัพทของคําวา َ ب َ ت َ ك
แปลวาเขียน บันทึก จารึก การที่คํานี้แปลวาไดถูกกําหนดก็เพราะคําวา
กําหนดมีความหมายที่มากกวาและเหนือกวาคําวาบันทึก ซึ่งมันบงชี้ถึง
การมีวาระสําคัญที่ตองปฏิบัติ
ทานอัล-หาฟช อิบนุหะญัรฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดใหความหมาย
ไวในหนังสือ ฟตหุลบารี ของทานวา “م ْ و َّ صلا หรือ ُ ما َ ي ِ ّ صلا ทางดาน
ภาษาคือการละเวนหรือระงับ เชนคําดํารัสของอัลลอฮฺที่วา “ ِ ّ نِ إ
แทจริงฉันไดบนบานที่จะระงับการพูดไวตอ
พระผูทรงกรุณาปรานี” ในสวนของความหมายทางดานบัญญัติ
ศาสนาคือการระงับจากการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม การรวม
หลับนอนระหวางสามีภรรยา และการพูดจาไรสาระตลอดจนการ
กระทําที่ขาดคุณธรรม” (การถือศีลอดตามบัญญัติอิสลาม : 26)
ฉะนั้นการถือศีลอดนั้นคือ การยําเกรงหรือการละทิ ้งความผิด
และสิ่งที่หะรอมทั้งหลายไมใชเพียงแคการงดจากการรับประทานอาหาร
เครื่องดื่ม และการรวมหลับนอนกับภรรยาเทานั้น
ความวา “โอบรรดาผูศรัทธาทั้งหลาย! การถือศีลอดนั้นไดถูก
กําหนดแกพวกเจาแลว เชนเดียวกับที่ไดถูกกําหนดแกบรรดาผู
กอนหนาพวกเจามาแลว เพื่อวาพวกเจาจะไดยําเกรง” (สูเราะฮฺ อัล
บะเกาะเราะฮฺ : 183)
นี่คือเนื้อหาของอายะฮฺที่ 183 แตเมื่อเขาสูอายะฮฺที่ 184 มีอยู
สองคําที่เกี่ยวของกับอายะฮฺที่กําลังศึกษาอยูนั้นคือ “ ا ً ما َّ ي
َ
أ ٍتا َ دو ُ د ْ ع َّ م ”
ในความเปนจริงแลว ถาไมนําอายะฮฺขางตนนี้มาศึกษารวมกับอายะฮฺที่
183 มันก็เพียงพอแลว เนื่องจากเนื้อหาก็มีความสมบูรณได แตที่นําสอง
คํานี้มาเริ่มตนในอายะฮฺใหมมันก็มีเหตุผลในดานความหมาย
เชนเดียวกัน กลาวคือ จะทําใหคนที่ไดรับคําบัญชาจากอัลลอฮฺ สุบหา
นะฮุ วะตะอาลา ไดรับคําตอบหลังจากที่ไดรับคําบัญชาวาเขาตองทํา
อะไรตอไป สังเกตไดงายๆ คือ โดยปรกติแลวเมื่อเราไดรับคําสั่งอะไร
บางอยางแลว ก็จะเกิดขอสงสัยตามมาวา “จงทํา...แลวใหทําอะไร”
เชนเดียวกันเมื่อมีคําสั่งวา “จงถือศีลอด การถือศีลอดไดถูกกําหนด
ใหแกพวกเจาแลวเชนเดียวกับไดถูกกําหนดใหแกประชาชาติรุน
กอน” ก็จะมีคําถามผุดขึ้นมาทันทีวา แลวจะใหถือศีลอดอยางไรและ
เมื่อไหร
“คือในบรรดาวันที่ถูกกําหนดไวแลว” ก็จะ
เปนคําตอบที่คลี่คลายขอสงสัยในนั้นโดยทันที
เปนที่นาสังเกตวา ! กอนหนาอายะฮฺนี้อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะ
อาลา ไดระบุถึงบทบัญญัติในเรื่องของการลงโทษประหารชีวิตฆาตรกร
(กิศอศ)ซึ่งเกี่ยวของกับเรื่องอาญา(ดูใน สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ : 178
179) และไดระบุถึงเรื่องการทําพินัยกรรมซึ่งเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ
(ดูใน สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ : 180) หลังจากนั้นอัลลอฮฺ สุบหานะฮุ
วะตะอาลา ก็ไดระบุถึงบทบัญญัติในเรื่องของอิบาดะฮฺนั้นคือการถือศีล
อด ประหนึ่งพระองคกําลังจะอธิบายใหผูศรัทธาไดเขาใจและตระหนักวา
สิทธิของพระองคในการบัญญัติกฎหมายนั้นมันไมมีอะไรที่จะสามารถ
แบงแยกในสิ่งที่พระองคทรงกําหนดไวได สําหรับผูศรัทธาแลวเขาจะตอง
ไมเลือกปฏิบัติ เขาจะไมมีลักษณะเหมือนพวกเซคคิวลาร(พวกแบงแยก
เรื่องศาสนาออกจากเรื่องทางโลก)
อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ไมไดใหสิทธิ์แกเราใหเลือก
ปฏิบัติ ไมใชวาคนๆ หนึ่งตองการที่จะถือศีลอด แตในเรื่องของการทํา
พินัยกรรม เศรษฐกิจ และการลงโทษตัดสินคดี ฯลฯ เขากลับเลือกที่จะไม
ปฏิบัติหรือปฏิเสธในหลักการของพระองคและนํากฎหมายอื่น เชน
กฎหมายสากลมาใช ซึ่งคนที่มีลักษณะนี้ก็แสดงวาเขานั้นเปนคนที่เลือก
ปฏิบัติ เปนคนที่ปฏิเสธในคําบัญชาของอัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา
เพราะพระองคผูทรงบัญญัติเรื่องการถือศีลอดก็เปนพระเจาองคเดียวกัน
9
กับผูทรงบัญญัติเรื่องของพินัยกรรม เศรษฐกิจ และการลงโทษ ฯลฯ และ
นี่เปนขอหักลางที่ดีที่สุดสําหรับพวกเซคคิวลาร และเปนคําตอบที่ดีที่สุดที่
จะใหกับพวกที่กลาววาสําหรับมุสลิมแลวเขามีสิทธิ์ที่จะใชกฎหมายชะ
รีอะฮฺที่เกี่ยวของกับบางเรื่องบางประการ เชนที่เกี่ยวของกับมรดกและ
ครอบครัว สวนกฎหมายที่ครอบคลุมชีวิตในดานอื่นๆ นั้นใชไมได
ทานอิบนุกะษีรฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดสรุปเนื้อหาของอายะฮฺนี้ไว
วา “อัลลอฮฺไดทรงกลาวกับผูศรัทธาในประชาชาตินี้ โดยที่บัญชา
ใหพวกเขาถือศีลอด นั่นคือ การงดจากการรับประทานอาหาร
เครื่องดื่ม และรวมหลับนอนกับภรรยา ดวยเจตนารมณที่บริสุทธิ์
เพื่ออัลลอฮฺ อัซซะวะญัลล การที่อัลลอฮฺทรงบัญชาในเรื่องนี้ก็
เพราะวาจะไดเปนการชําระจิตใจใหบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากสิ่ง
เลวรายที่ปะปนอยูในการกระทําและมารยาทที่เลวทราม และ
พระองคทรงกลาวอีกวา พระองคทรงกําหนดการงานนี้สําหรับ
พวกเขา(บรรดาผูศรัทธาแหงประชาชาตินี้) ดังที่พระองคทรง
กําหนดเชนเดียวกันสําหรับประชาชาติกอนหนานี้ ซึ่งมีแบบอยาง
ที่ดีงามจากเหลาบรรพชนเพื่อใหคนในรุนหลังไดปฏิบัติตามและ
แขงขันกันในการทําความดีและใหปฏิบัติใหดีเยี่ยมกวาประชาชาติ
กอนหนานี้” ดังที่อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ไดดํารัสวา
ความวา “สําหรับแตละประชาชาติในหมูพวกเจานั้น เราไดใหมี
บทบัญญัติและแนวทางไว และหากอัลลอฮฺทรงประสงคแลว
แนนอนก็ทรงใหพวกเจาเปนประชาชาติเดียวกันแลว แตทวา
เพื่อที่จะทรงทดสอบพวกเจาในสิ่งที่พระองคไดประทานแกพวก
เจา ดังนั้นพวกเจาจงแขงขันกันในความดีทั้งหลายเถิด” (สูเราะฮฺ
อัล-มาอิดะฮฺ : 48) (ตัฟสีรฺ อิบนิ กะษีรฺ : 1/497 )
อัลลอฮฺทรงใหเราเห็นวา การที่พระองคทรงกําหนดใน
บทบัญญัตินี้ใหแกประชาชาติรุนกอน เพื่อเปนสิ่งที่จะทดสอบเรา เปนสิ่ง
ที่จะทําใหเรารูสึกที่อยากจะแขงขัน ซึ่งเปนการแขงขันเพื่อแสวงหาความ
พึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา
ทานอิบนุกะษีรฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาวอีกวา ทานไดอาง
คําพูดของทานอิมามอะหฺมัด บิน หัมบัล เราะหิมะฮุลลอฮฺ วาทานมุอาซฺ
บิน ญะบัล เราะฎิยัลลอฮุอันฮุไดกลาววา “การละหมาดและการถือศีล
อดนั้นคอยๆ กอตัวขึ้นเปนรูปรางเหมือนดังปจจุบันอยางคอยเปน
คอยไป ในตอนแรกมุสลิมไดหันหนาไปยังนครเยรูซาเล็มในเวลา
ละหมาด แตหลังจากนั้นอีกไมกี่ป พวกเขาก็ไดถูกบัญชาใหหัน
หนาไปยังกะอฺบะฮฺที่นครมักกะฮฺ นอกจากนี้แลวมุสลิมเคยใช
วิธีการบอกเวลาละหมาดแบบตางคนตางบอก แตหลังจากนั้นการ
แจงเวลาละหมาดก็ไดถูกประกาศโดยการ “อะซาน” สําหรับการถือ
ศีลอดนั้น เมื่อทานเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได
อพยพไปยังนครมาดีนะฮฺ ทานไดถือศีลอดเปนเวลาสามวันในหนึ่ง
เดือน และในวันที่สิบของเดือนมุหัรร็อมอีกวันหนึ่ง หลังจากนั้น
อัลลอฮฺ สุบหานะฮุวะตะอาลา ก็ไดกําหนดใหเปนหนาที่สําหรับ
มุสลิมที่จะตองถือศีลอดตลอดทั้งเดือนเราะมะฎอน แตก็อนุญาต
ใหคนที่ไมไดถือศีลอดทั้งๆ ที่สามารถถือไดเลี้ยงอาหารคนยากจน
หนึ่งคนแทนสําหรับหนึ่งวันที่เขาไมไดถือศีลอด ตอมาการใหสิทธิ
ในการเลี้ยงอาหารแกคนยากจนสําหรับคนที่ไมถือศีลอดหนึ่งวัน ก็
ไดถูกยกเลิกในกรณีของคนที่มีสุขภาพแข็งแรงและคนที่ไมไดอยู
ในระหวางการเดินทาง” (ตัฟสีรฺ อิบนิ กะษีรฺ : 1/498 )
ทานสัยยิด กุฏบ เราะหิมะฮุลลอฮฺ ไดกลาววา “แทจริงอัลลอฮฺ
สุบหานะฮุวะตะอาลา ทรงรูดีวา บัญญัติตางๆ ที่จะใหมนุษยถือ
ปฏิบัตินั้น เปนสิ่งที่จิตใจของมนุษยยังตองการแรงผลักดัน ยัง
ตองการความชวยเหลือในการนํามาปฏิบัติชวยใหซึมซับเขาสู
จิตใจ ไมวาบัญญัตินั้นจะแฝงไวดวยปรัชญาหรือคุณคามากมาย
สักปานใด นั่นก็เพื่อใหเกิดการยอมรับและความพึงพอใจในการ
ประพฤติปฏิบัติตามบัญญัติ ซึ่งเปาหมายสูงสุดของการถือศีลอด
นั้นถูกทําใหเห็นอยางเดนชัดขึ้นในอายะฮฺ และเปาหมายที่วานั้น
คือการยําเกรงตออัลลอฮฺ ความยําเกรงที่จะทําใหจิตใจตื่นตัวและ