
กลิ่นปากของผู้ถือศีลอด
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
หะดีษบทที่ 9
กลิ่นปากของผู้ถือศีลอด
ความว่า จากท่าน อบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ เล่าจากท่าน รอซูล
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ท่านได้กล่าวว่า “ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺผู้ซึ่ง
ชีวิตมุหัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ แท้จริงแล้วกลิ่นปากของผู้ที่ถือ ศีล
อดนั้น มีกลิ่นหอม ณ อัลลอฮฺ ในวันกิยามะฮฺ ยิ่งกว่ากลิ่นของน้ำหอมมิสกฺ
(ชะมดเชียง)” (รายงานโดย มุสลิม เลขที่ 1944)
คำอธิบาย
อัล-กอฏีย์ กล่าวว่า อุละมาอ์บางท่านกล่าวว่า ในวันอาคิเราะฮฺนั้นอัลลอฮฺทรงตอบแทนผู้ที่
ถือศีลอดโดยให้กลิ่นปากของเขาหอมยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียง และมีความเสมอเหมือนกับเลือดของ
ผู้ที่ตายชะฮีดซึ่งจะมีกลิ่นหอมยิ่งกว่ากลิ่นชะมดเชียงเช่นเดียวกัน
อุละมาอ์ท่านอื่นกล่าวว่า สำหรับมะลาอิกะฮฺแล้วกลิ่นของผู้ที่ถือศีลอดนั้นจะมีกลิ่นหอมยิ่ง
กว่ากลิ่นชะมดเชียง แม้ว่าสำหรับคนเราแล้วจะมีกลิ่นที่ตรงกันข้ามก็ตาม
อิหม่าม อัน-นะวะวีย์กล่าวว่า ความเห็นที่ถูกต้องกว่าก็คือความเห็นตามที่ อัด-ดาวูดีย์
และสหายในมัซฮับของเราได้กล่าวไว้ นั่นคือ กลิ่นปากของผู้ที่ถือศีลอดนั้นจะได้ผลบุญมากกว่า
การสุนัตให้พรมน้ำหอมในพิธีต่างๆ เช่น วันอีด หรือการรวมตัวต่างๆ และหะดีษนี้เป็นการอ้างอิง
ของบรรดาสหายในมัซฮับของเราที่มีความเห็นว่ามักรูฮฺในการแปรงฟันสำหรับผู้ที่ถือศีลอด
หลังจากดวงอาทิตย์คล้อย เพราะอาจจะทำให้กลิ่นตามคุณลักษณะที่กล่าวถึงและผลบุญที่จะ
ได้รับในหะดีษดังกล่าวหมดไป แม้ว่าการแปรงฟันนั้นจะมีข้อดีก็ตาม แต่ความประเสริฐของกลิ่น
ปากนั้นสำคัญเหนือกว่า พวกเขากล่าวว่า กลิ่นปากผู้ถือศีลอดมีความเสมอเหมือนกับเลือดของคน
ที่ตายชะฮีด ซึ่งเป็นที่รับรองว่ามีกลิ่นหอมมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีการอาบน้ำศพสำหรับผู้ที่ตาย
ชะฮีด แม้ว่าการอาบน้ำศพนั้นมีหุก่มวาญิบก็ตาม การละทิ้งสิ่งที่วาญิบเพื่อรักษาเลือดที่ยอมรับว่า
มีกลิ่นหอมนั้นถือว่าหุก่มอนุญาตให้ทำได้ เฉกเช่นเดียวกันกับการละทิ้งการแปรงฟันของผู้ถือศีล
2
อดซึ่งมิใช่เป็นวาญิบ เพื่อคงไว้ซึ่งกลิ่นที่ถือว่ามีกลิ่นหอมจึงเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า (ชัรหฺ เศาะฮีหฺ
มุสลิม 8/30)
บทเรียนจากหะดีษ
1. ระบุถึงความประเสริฐของผู้ที่ถือศีลอด แม้กระทั่งกลิ่นปากของเขา อัลลอฮฺยังได้ให้
ความสำคัญอีกด้วย
2. กลิ่นปากที่เหม็นของผู้ที่ถือศีลอด ในวันอาคิเราะฮฺอัลลอฮฺจะทรงเปลี่ยนให้มีกลิ่นหอม
3. อัลลอฮฺทรงให้เกียรติแก่ผู้ที่ถือศีลอด
4. อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอำนาจ สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งหนึ่งสิ่งใดตามความประสงค์ของ
พระองค์ได้ทุกประการ