ฉันเป็นมุสลิม
เขียนโดย ดร. มุฮัมมัด บิน อิบรอฮีม อัลหัมด์
3
ฉันเป็นมุสลิม.1
ฉันเป็นมุสลิม หมายความว่า ศาสนาของฉันคือศาสนาอิสลามคาว่าอิสลาม เป็นคาที่
ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ที่สืบทอดกันโดยบรรดาศาสนทูต อะลัยฮิมุสสลาม ตั้งแต่คนแรก
จนถึงคนสุดท้ายและคานี้เป็นคาที่มีความหมายอันสูงส่งและคุณค่าอันยิ่งใหญ่ซึ่ง
หมายถึงการยอมจานน การปฏิบัติตาม และการเชื่อฟังต่อพระเจ้าผู้ทรงสร้างและ
หมายถึงความสันติสุข ความปรองดอง ความสุข ความปลอดภัย และความสบายใจ
สาหรับบุคคลและกลุ่มชน
และด้วยเหตุนี้ ค าว่าอัสสลามและอัลอิสลามเป็นคาที่ถูกกล่าวบ่อยที่สุดใน
บทบัญญัติของอิสลามและคาว่า อัสสลาม เป็นพระนามหนี่งจากหลายๆพระนาม
ของอัลลอฮ์และคาทักทายของมุสลิมที่ใช้ทักทายระหว่างกันนั้น คือ ค าว่า อัสสลาม
และการทักทายของชาวสวรรค์ ก็คือ สลามและผู้ที่เป็นมุสลิมอย่างแท้จริง คือผู้ที่
บรรดามุสลิมปลอดภัยจากคาพูดและการกระทาของเขาดังนั้น ศาสนาอิสลามเป็น
ศาสนาแห่งความดีสาหรับมวลมนุษยชาติ เป็นที่พอใจและเป็นทางไปสู่ความสุขทั้งใน
โลกนี้และโลกหน้าและด้วยเหตุนี้ จึงเป็นศาสนาสุดท้ายที่ครอบคลุม มีความกว้างขวาง
ชัดเจน และเปิดให้สาหรับทุกคน โดยไม่ทาให้เชื้อชาติใดเหนือกว่าเชื้อชาติหนึ่ง หรือสี
1 เป็นคาที่เขียนขึ้นมาเพื่อแนะนาศาสนาอิสลาม
4
ผิวใดเหนือกว่าสีผิวหนึ่ง แต่เป็นศาสนาที่มองดูมนุษย์ด้วยการมองที่เท่าเทียมกันและไม่
มีใครจะมีความโดดเด่นในศาสนาอิสลาม นอกจากในขอบเขตที่เขาได้ยึดมั่นตามคา
สอนของอิสลาม
และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่ยอมรับของทุกชีวิตที่ปกติ เพราะเป็นศาสนาที่สอดคล้องกับ
สัญชาตญาณมนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับหัวใจที่ชอบในความดี ความยุติธรรม และ
ความเป็นอิสระ รักพระเจ้าของเขา ยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวที่คู่ควร
แก่การเคารพสักการะเหนือสิ่งอื่นใดไม่มีผู้ใดผันออกจากธรรมชาตินี้ ยกเว้นมีผู้ที่
เปลี่ยนแปลงมันและศาสนานี้ได้รับการอนุมัติสาหรับมนุษย์โดยผู้สร้างมนุษย์ พระเจ้าผู้
ทรงอภิบาลของพวกเขา และผู้ทรงเป็นที่เคารพสักการะของพวกเขา
ศาสนาของฉัน คือศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาที่สอนฉันว่า ฉันจะมีชีวิตในโลกนี้
และหลังจากที่ฉันตาย ฉันก็จะย้ายไปสู่อีกที่หนึ่ง มันเป็นที่พานักที่ชั่วนิรันดร์ ซึ่งเป็นที่
สุดท้ายสาหรับมนุษย์ไม่ว่าจะไปสวรรค์หรือนรก
ศาสนาอิสลามของฉันสั่งให้ฉันปฏิบัติตามคาสั่งและห้ามไม่ให้ฉันทาสิ่งที่ต้องห้าม
ดังนั้น เมื่อฉันได้ปฏิบัติตามคาสั่งเหล่านั้น และห่างไกลจากสิ่งที่ต้องห้าม ท าให้ฉันมี
ความสุขทั้งในโลกนี้ และโลกหน้าและถ้าฉันละเลยไม่ให้ความสาคัญต่อสิ่งนั้น ความ
ทุกข์ยากในโลกนี้และโลกหน้าก็จะเกิดขึ้น เทียบเท่ากับการละเลยและความบกพร่อง
ของฉันที่ได้ท าไป
5
และคาสั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ศาสนาอิสลามได้สั่งใช้นั้น คือการศรัทธาในความเป็นเอ
กะของอัลลอฮ์ดังนั้น ฉันขอเป็นพยาน ฉันขอยึดมั่นด้วยการยึดมั่นที่มั่นคงว่า อัลลอฮ์
คือผู้ทรงสร้างฉัน และเป็นพระเจ้าที่ฉันต้องเคารพสักการะฉันจะไม่เคารพสักการะต่อ
สิ่งใดๆ นอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ด้วยการรักพระองค์ กลัวต่อการลงโทษของพระองค์
หวังในการตอบแทนจากพระองค์ และมอบหมายต่อพระองค์และการศรัทธาในความ
เป็นเอกะของพระองค์นั้น แสดงถึงการเป็นพยานต่ออัลลอฮ์ในความเป็นเอกะของ
พระองค์ และเป็นพยานต่อมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในการเป็นเราะซูล
ของท่านมูฮัมมัด คือนบีท่านสุดท้าย ที่อัลลอฮ์ได้ส่งมาเพื่อเป็นความเมตตาแก่
ประชาชาติทั้งหลาย และเป็นที่สิ้นสุดแห่งการเป็นนบี และการเป็นเราะซูล ดังนั้นจะไม่
มีนบีอีกต่อไปหลังจากท่านและแท้จริง ท่านได้มาพร้อมกับศาสนาที่ครอบคลุม ที่ใช้ได้
กับทุกยุคทุกสมัย ทุกสถานที่ และทุกประชาชาติ
และศาสนาของฉันได้สั่งฉันอย่างเคร่งครัดให้ศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์ และศา
สนทูตทั้งหมด ที่ยิ่งใหญ่ในหมู่พวกเขาคือ นูห์ อิบรอฮีม มูซา อีซา และมูฮัมมัด อะลัยฮิ
มุสสลาม
ศาสนาของฉันได้สั่งฉันให้ศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์แห่งฟากฟ้าที่ถูกประทานลงมา
แก่บรรดาเราะซูล และตามด้วยเล่มสุดท้าย เป็นเล่มสิ้นสุดของบรรดาคัมภีร์ และเป็น
คัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นคือ คัมภีร์อัลกุรอาน
6
และศาสนาของฉัน ได้สั่งฉันให้ศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์ (วันอวสาน) ซึ่งเป็นวันที่
มนุษย์จะได้รับการตอบแทนสาหรับทุกการกระทาของพวกเขาศาสนาของฉันได้สั่งให้
ฉันศรัทธาต่อกฎกาหนดสภาวการณ์ และให้ฉันพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะ
เป็นสิ่งที่ดีและไม่ดีก็ตาม และสั่งให้ฉันใช้ชีวิตบนหลักของเหตุและผลในการอยู่รอด
และการศรัทธาต่อกาหนดสภาวการณ์นั้นทาให้ฉันสบายใจ สงบ อดทน และยับยั้ง
ตัวเองไม่ให้เสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วเพราะฉันรู้แน่ว่าสิ่งใดที่ประสบกับฉันมันจะไม่
พลาดแน่นอน และสิ่งใดที่จะไม่เกิดขึ้นกับฉัน มันก็จะไม่ประสบกับฉัน(เป็นไปไม่ได้
ที่มันจะเกิดขึ้นกับฉัน)ดังนั้นทุกสิ่งเป็นสิ่งที่ถูกกาหนดและถูกบันทึกไว้แล้ว
โดยอัลลอฮ์ และสิ่งที่จาเป็นสาหรับฉันคือ การอยู่บนหลักของเหตุผล และพอใจกับผล
ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
อิสลามสั่งให้ฉันทาในสิ่งที่เป็นการชาระจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการทาความดี
ต่างๆ และการมีจรรยามารยาทอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าของฉันพอพระทัย ช าระจิตวิญญาณ
ให้บริสุทธิ์ ท าให้ใจเป็นสุข ท าให้อกของฉันรู้สึกโล่ง ชี้ทางสว่างให้แก่ฉัน และท าให้
ฉันเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่มีประโยชน์ของสังคม
7
และการปฏิบัติที่สาคัญที่สุดคือ: การศรัทธาในความเป็นเอกะของอัลลอฮ์ ละหมาด
ห้าเวลาในวันหนึ่งและคืนหนึ่ง จ่ายซะกาต ถือศีลอดหนึ่งเดือนในหนึ่งปี คือเดือนเราะ
มะฎอน และประกอบพิธีฮัจญ์ที่มักกะฮ์สาหรับผู้ที่มีความสามารถ
และหนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ศาสนาของฉันได้ชี้แนะที่เป็นสิ่งให้ฉันสบายใจ คือ
การอ่านอัลกุรอานบ่อยๆ ซึ่งเป็นพระวจนะของอัลลอฮ์ ซึ่งเป็นคาพูดที่เป็นความจริง
ที่สุด สวยงามที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และหรูหราที่สุดที่ครอบคลุมความรู้ตั้งแต่ประชาชาติ
แรก และประชาชาติสุดท้ายดังนั้น การอ่านและการฟังอัลกุรอานนั้น ท าให้ความสงบ
ความสบายใจและความสุขได้เข้าสู่หัวใจ แม้คนที่อ่านหรือคนที่ฟังนั้นจะไม่เข้าใจใน
ภาษาอาหรับก็ตาม หรือแม้จะไม่ใช่มุสลิมก็ตาม
และสิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทาจิตใจมีความสุข คือการวิงวอนต่ออัลลอฮ์บ่อยๆ การ
กลับใจเข้าหาพระองค์ และขอต่อพระองค์ในทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เล็กหรือใหญ่ก็ตาม
และอัลลอฮ์จะทรงตอบรับการวิงวอนของผู้ที่วิงวอนต่อพระองค์ และเคารพสักการะ
พระองค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
และสิ่งที่ยิ่งใหญ่อีกประการหนึ่งที่ทาให้จิตใจมีความสุข คือการราลึกถึงอัลลอฮ์
มากๆ
8
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ชี้แนะฉันถึงวิธีการราลึกถึงอัลลอฮ์ และได้
สอนฉันถึงบทราลึกที่ดีที่สุดและส่วนหนึ่งจากบทราลึกนั้น คือคาทั้งสี่ที่เป็นคาที่
ประเสริฐที่สุดหลังจากอัลกุรอาน คาทั้งสี่นั้นคือ
(سبحان هللا واحلمدهلل والإله إال هللا وهللا أكب)
และเช่นกันคือค าว่า
(أستغفر هللا وال حول وال قوة إال ابهلل)
และบทราลึกเหล่านี้มีผลที่ดีมากในการทาให้จิตใจโล่งสบาย และท าให้ความสงบ
สุขเข้าสู่หัวใจ
และศาสนาอิสลามได้สั่งให้ฉันรักษาศักดิ์ศรี ให้ห่างไกลจากทุกสิ่งที่ทาให้ศักดิ์ศรี
และความเป็นมนุษย์ของฉันเสื่อมเสียและสั่งให้ฉันใช้สติปัญญาและอวัยวะต่างๆ ของ
ร่างกายสาหรับการกระทาที่ดีที่มีประโยชน์ทั้งทางศาสนาและทางโลก
และศาสนาอิสลามสั่งให้ฉันมีความเมตตา มีศีลธรรม ปฏิบัติดี และท าดีต่อผู้อื่นให้
มากที่สุดที่ฉันสามารถทาได้ทั้งด้วยคาพูดและการกระทา
9
และสิทธิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากบรรดาสิทธิต่างๆ ของมนุษย์ คือสิทธิของบิดามารดา
ศาสนาของฉันสั่งให้ฉันทาดีต่อท่านทั้งสอง รักในสิ่งที่ดีต่อพวกเขา มีความ
กระตือรือร้นในการท าให้พวกเขามีความสุข และให้ผลประโยชน์แก่พวกเขา
โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองแก่ชราและด้วยเหตุนี้ ท่านจะเห็นผู้ที่เป็นพ่อแม่ในสังคมอิสลาม
นั้นจะอยู่ในสถานะที่สูงในด้านการให้เกียรติ ความเคารพ และการบริการรับใช้จาก
ลูกๆ ของพวกเขาและเมื่อทั้งสองได้แก่ชราลง หรือประสบกับโรคภัยไข้เจ็บ หรือเกิด
ความอ่อนแอลง ลูกๆ ของพวกเขาก็จะยิ่งทาดีต่อพวกเขามากขึ้น
และศาสนาของฉันได้สอนฉันว่า ผู้หญิงนั้นมีศักดิ์ศรีที่สูงส่งและสิทธิต่างๆ ที่
ยิ่งใหญ่ผู้หญิงในศาสนาอิสลามนั้นมีความเท่าเทียมกับผู้ชาย ดังนั้น คนที่ดีที่สุด คือคน
ที่ท าดีที่สุดต่อครอบครัวของเขาเมื่อสตรีมุสลิมะฮ์ยังเป็นเด็ก นางมีสิทธิที่จะได้รับนม
จากแม่ ได้รับการดูแล และการเลี้ยงดูที่ดี และในเวลาเดียวกันนั้น ก็เป็นแก้วตาดวงใจ
และเป็นสิ่งล ้าค่าสาหรับพ่อแม่และพี่น้องของนาง
และเมื่อนางโตขึ้น นางก็จะเป็นผู้ที่มีความสาคัญและเป็นที่เคารพนับถือ ซึ่งเป็นผู้ที่
ผู้ปกครองคอยเป็นห่วง และให้ความสาคัญด้วยการเอาใจใส่ผู้ปกครองจะไม่ยอมที่จะ
ให้มีมือใดๆ หรือค าพูดใดๆ มาทาร้ายนาง หรือสายตาใดๆ ที่ทรยศหักหลัง
และเมื่อนางแต่งงาน การแต่งงานนั้นก็จะเป็นไปตามคาสั่งของอัลลอฮ์ และอยู่
ภายใต้พันธสัญญาที่เข้มงวดของพระองค์นางจะอยู่ในบ้านสามีของนางในฐานะคน
10
ใกล้ชิดที่มีเกียรติที่สุดและเป็นหน้าที่ของสามีที่จะต้องให้เกียรตินาง เมตตาต่อนาง และ
ไม่ทาร้ายนาง
และเมื่อใดที่นางเป็นแม่ การท าดีต่อนางจะตามมาเป็นรองจากสิทธิของอัลลอฮ์ การ
เนรคุณและการทาร้ายนางนั้นเป็นบาปใหญ่รองจากการตั้งภาคี และการสร้างความ
เสียหายบนหน้าแผ่นดิน
และถ้านางเป็นพี่สาวหรือน้องสาว นางก็เป็นคนที่มุสลิมทุกคนได้รับคาสั่งให้รักษา
ความสัมพันธ์กับนาง ให้เกียรตินาง และคอยเป็นห่วงนางและหากนางอยู่ในสถานะ
เป็นป้า สถานะของนางก็เทียบเท่ากับผู้เป็นแม่ทั้งในด้านการทาดีและการสร้างสัมพันธ์
และถ้านางอยู่ในสถานะเป็นคุณย่าหรือคนสูงอายุ ความสาคัญของนางก็จะเพิ่มมาก
ขึ้นในสายตาของลูกๆ หลานๆ และญาติๆ ของนางทุกคน ค าขอของนางแทบไม่เคยถูก
ปฏิเสธ และความคิดเห็นของนางก็ไม่เคยถูกมองข้ามไป
และหากนางเป็นคนห่างไกลจากผู้คน ไม่ว่าจากผู้เป็นญาติหรือเพื่อนบ้าน นางก็มี
สิทธิทั่วไปในศาสนาอิสลามคือต้องไม่ทาอันตรายต่อนาง และต้องลดสายตาลง และ
อื่นๆ
สังคมมุสลิมยังคงให้ความสาคัญต่อสิทธิเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยให้ความสาคัญแก่
ผู้หญิง และให้คุณค่าแก่นาง โดยสิทธิต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีในสังคมที่ไม่ใช่มุสลิม
11
จากนั้น ในศาสนาอิสลาม ผู้หญิงมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ให้เช่า ซื้อและ
ขาย และการท าสัญญาต่างๆ เช่นเดียวกับสิทธิในการศึกษาหาความรู้ การสอน และการ
ท างาน ในลักษณะที่ไม่ขัดกับศาสนาของนางยิ่งกว่านั้น บางครั้งความรู้เป็นสิ่งที่จาเป็น
เหนือทุกคน ถือเป็นบาปหากละทิ้งมันไป ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง
ยิ่งกว่านั้น นางมีสิทธิเช่นเดียวกับผู้ชาย เว้นแต่สิทธิบางประการที่เฉพาะสาหรับนาง
ซึ่งผู้ชายไม่มีสิทธิ หรือสิทธิเฉพาะสาหรับผู้ชายและผู้หญิงไม่มีสิทธิ ในแง่ของสิทธิ
ต่างๆ และบทบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งชายและหญิง ซึ่งจะกล่าวละเอียดในแต่ละ
ประเด็น
ศาสนาของฉันสั่งให้ฉันรักพี่น้อง ลุง ป้า น้า อา และญาติพี่น้องทุกคน และสั่งให้
ฉันปฏิบัติตามสิทธิของภรรยา ลูกๆ และเพื่อนบ้าน
ศาสนาของฉันสั่งให้ฉันแสวงหาความรู้ และส่งเสริมให้ฉันทาทุกอย่างด้วย
สติปัญญา จรรยามารยาท และความคิดเพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้น
ศาสนาอิสลามสั่งให้ฉันเป็นคนสุขุม อ่อนโยน ใจกว้าง กล้าหาญ ฉลาด มีความเยือก
เย็น อดทน ซื่อสัตย์ ถ่อมตน มีความบริสุทธิ์ จริงใจ มีคุณธรรม หวังดีต่อผู้อื่น ท างาน
หาเลี้ยงชีพ เมตตาต่อคนจน เยี่ยมเยียนคนป่วย รักษาสัญญา พูดจาไพเราะ พบปะผู้คน
อย่างร่าเริง และพยายามทาให้พวกเขามีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทาได้
12
ในทางกลับกัน ศาสนาอิสลามได้เตือนฉันให้ระวังความโง่เขลา และห้ามฉันจาก
การปฏิเสธพระเจ้า ปฏิเสธการมีของพระเจ้า ห้ามเนรคุณ การผิดศีลธรรม การล่วง
ประเวณี การเบี่ยงเบนทางเพศ ความเย่อหยิ่ง ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชัง คิด
ในทางที่ไม่ดี การมองโลกในแง่ร้าย ความโศกเศร้า การโกหก ความสิ้นหวัง ความ
ตระหนี่ ความเกียจคร้าน ความขี้ขลาด การว่างงาน ความโกรธ ความประมาท ความโง่
เขลา ท าไม่ดีต่อคนอื่น พูดมากเกินไปโดยไม่เกิดประโยชน์ เปิดเผยความลับ ทรยศ ผิด
สัญญา เนรคุณต่อพ่อแม่ ท าลายความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ ไม่ให้ความสาคัญกับ
ลูกๆ สร้างความเดือดร้อนต่อเพื่อนบ้านและสังคมโดยรวม
อิสลามยังห้ามไม่ให้ฉันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามใช้ยาเสพติด เล่นการพนัน
ขโมย หลอกลวง ใช้เล่ห์เหลี่ยม ข่มขู่ผู้อื่น สอดแนมพวกเขา และติดตามข้อผิดพลาด
ของพวกเขา
ศาสนาของฉันรักษาทรัพย์สิน และในการนี้จึงเผยแพร่ความสันติสุขและความ
ปลอดภัย และด้วยเหตุนี้อิสลามจึงส่งเสริมเรื่องความซื่อสัตย์ และยกย่องผู้ที่มีความ
ซื่อสัตย์ และได้สัญญาว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีและได้เข้าสวรรค์ในวันอาคิเราะฮ์ อิสลาม
ห้ามการลักขโมย และสัญญาว่าจะลงโทษผู้ที่กระทาทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
ศาสนาของฉันรักษาชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงห้ามไม่ให้มีการฆ่าชีวิตผู้ใดโดยไม่ถูกต้อง
และห้ามทาร้ายผู้อื่นไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม แม้จะเป็นค าพูดก็ตาม
13
ยิ่งกว่านั้น ศาสนาของฉันห้ามมิให้บุคคลท าร้ายตัวเอง ไม่อนุญาตทาลายสติปัญญา
ของตัวเอง ท าลายสุขภาพ หรือฆ่าตัวตาย
ศาสนาอิสลามของฉัน ได้ให้เสรีภาพและกาหนดกรอบเพราะในศาสนาอิสลามนั้น
บุคคลมีอิสระที่จะคิด ซื้อ ขาย ค้าขาย และการเดินทาง และมีอิสระที่จะเพลิดเพลินกับ
ความสุขของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า หรือเสียง ตราบใดที่เขาไม่
กระทาสิ่งต้องห้ามที่กระทบต่อตัวเองหรือต่อผู้อื่น
ศาสนาของฉันก าหนดกรอบแห่งเสรีภาพ ดังนั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลใดท าอันตราย
ต่อผู้อื่น ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่หลงระเริงไปกับความสุขที่ต้องห้ามที่เป็นการทาลาย
ทรัพย์สิน ความสุข และความเป็นมนุษย์ของเขา
หากท่านสังเกตผู้ที่ให้ความอิสรภาพแก่ตนเองในทุกสิ่ง และมอบความอิสระนั้น
ทั้งหมดตามความปรารถนาของตัวเอง โดยไม่มีการยับยั้งด้วยหลักศาสนาหรือเหตุผล
ทางปัญญา แน่นอน ท่านจะเห็นว่าพวกเขามีชีวิตในสภาพที่ต ่าสุดของความทุกข์ยาก
และมีชีวิตที่ไม่มีความสุข และท่านจะเห็นบางคนในจานวนนั้นต้องการฆ่าตัวตาย เพื่อ
ต้องการหนีออกจากความวิตกกังวลของชีวิต
ศาสนาของฉันสอนถึงมารยาทที่สูงส่ง ทั้งมารยาทในการกิน ดื่ม นอน และมารยาท
ในการพูดคุยกับผู้อื่น
14
ศาสนาของฉันสอนฉันเรื่องความใจกว้างในการซื้อและการขาย และในการ
เรียกร้องสิทธิ์และศาสนาสอนให้ฉันมีน ้าใจกับกลุ่มที่เห็นต่างในเรื่องศาสนา ดังนั้นฉัน
ไม่กดขี่พวกเขา จะไม่ทาร้ายพวกเขา แต่ฉันทาดีต่อพวกเขา และฉันหวังว่าความดีจะถึง
พวกเขา
ประวัติศาสตร์ของมุสลิมเป็นพยานถึงการมีน ้าใจต่อกลุ่มที่เห็นต่าง ซึ่งเป็นการมี
น ้าใจที่ไม่เคยพบเห็นในประชาชาติก่อนหน้าพวกเขาแท้จริงชาวมุสลิมได้เคยอาศัยอยู่
ร่วมกับประชาชาติจากศาสนาต่างๆ และอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม ปรากฏ
ว่าบรรดามุสลิมพร้อมกับพวกเขาต่างก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่สุดเมื่อเทียบกับการ
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในหน้าประวัติศาสตร์
โดยรวมแล้ว อิสลามได้สอนฉันเกี่ยวกับจริยธรรมอย่างละเอียด ความงามของการมี
ปฏิสัมพันธ์ การมีศีลธรรมอันสูงส่งที่ยกระดับชีวิตของฉันและท าให้ความสุขของฉัน
สมบูรณ์แบบและศาสนาของฉันห้ามฉันจากสิ่งที่ทาให้ชีวิตของฉันมัวหมอง และสิ่งที่
เป็นอันตรายต่อองค์กรทางสังคม ต่อชีวิต สติปัญญา ทรัพย์สิน เกียรติยศและศักดิ์ศรี
ยิ่งฉันปฏิบัติตามคาสอนเหล่านั้นมากเท่าไร ความสุขของฉันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เท่านั้นและยิ่งฉันละเลยและละทิ้งคาสอนเหล่านั้นมากเท่าไร ความสุขของฉันก็ยิ่งลด
น้อยลงมากเท่านั้น
15
สิ่งที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงว่าฉันเป็นคนที่บริสุทธิ์ ไร้ความผิด และไม่
บกพร่อง ศาสนาของฉันให้ความสาคัญต่อคุณลักษณะของฉันในฐานะมนุษย์ และ
ความอ่อนแอของฉันซึ่งบางครั้งทาให้เกิดข้อผิดพลาด ความประมาทเลินเล่อ และการ
หลงลืม ดังนั้นพระองค์จึงทรงเปิดประตูแห่งการเตาบะฮ์ (การกลับใจ) อิสติฆฟาร(การ
ขออภัยโทษ) และกลับไปสู่อัลลอฮ์ ดังนั้น การเตาบะฮ์ ช่วยขจัดผลที่ไม่ดีของความชั่ว
ร้ายของฉัน และยกระดับตาแหน่งของฉันกับพระเจ้าของฉัน
และทุกคาสอนของศาสนาอิสลามนั้น ไม่ว่าในด้านความเชื่อ ศีลธรรม จริยธรรม
และการธุรกรรมล้วนมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์
สุดท้ายนี้ ฉันขอกล่าวด้วยความมั่นใจว่า หากมนุษย์คนใดไม่ว่าอยู่ที่ใดในโลกนี้ ได้
ท าการศึกษาถึงความจริงของศาสนาอิสลามด้วยสายตาที่ยุติธรรมและปราศจากอคติ
เขาจะเข้ารับอิสลามอย่างแน่นอน แต่ปัญหาคือศาสนาอิสลามถูกบิดเบือนโดยการ
โฆษณาชวนเชื่อที่เป็นเท็จ หรือโดยการกระทาของบางกลุ่มที่ไม่เป็นที่ยอมรับ
และหากผู้ใดได้ตรวจดูถึงความจริงของมันอย่างแท้จริง หรือสภาพของผู้ที่เป็น
มุสลิมที่ยืนหยัดบนหลักศาสนาอย่างแท้จริง ย่อมมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ลังเลที่จะ
ยอมรับและเข้ารับอิสลามอย่างแน่นอนและจะเกิดความกระจ่างสาหรับเขาว่าศาสนา
อิสลามนั้น เรียกร้องผู้คนสู่ความสุข ขยายสันติภาพและความปลอดภัย และเรียกร้องสู่
ความยุติธรรมและความดีงาม
16
ส่วนการเบี่ยงเบนของบางคนที่นับถือศาสนาอิสลามไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ไม่ควร
ถือสิ่งเหล่านั้นเป็นศาสนา หรือตาหนิศาสนาอิสลามเพราะการเบี่ยงเบนนั้น แต่ศาสนา
ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการเบี่ยงเบนนั้นผลที่ตามมาจากความเบี่ยงเบนนั้นจะ
กลับมาสู่ตัวผู้ที่เบี่ยงเบนนั้นเอง เพราะศาสนาอิสลามไม่ได้สั่งพวกเขาในเรื่องนี้ แต่
ศาสนาได้ห้ามและตาหนิพวกเขาที่มีต่อการเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นนั้น
จากนั้น ความยุติธรรมที่แท้จริงคือการมองดูสภาพของผู้ที่ดารงอยู่กับศาสนาอย่าง
แท้จริง และเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามคาสั่งและบทบัญญัติทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น สิ่งนี้จะทาให้
หัวใจเต็มไปด้วยการเคารพและให้เกียรติต่อศาสนานี้และต่อผู้ที่เป็นมุสลิมศาสนา
อิสลามมิได้ละเว้นการแนะนาสู่ความดีและการขัดเกลาไม่ว่าน้อยหรือมากนอกจากจะ
สนับสนุนในสิ่งนั้น และไม่มีความชั่วหรือความเสียหายใดๆ นอกจากอิสลามการ
ตักเตือนและขัดขวางเส้นทางนั้น
ดังนั้นผู้ที่เชิดชูศาสนาและปฏิบัติตามคาสั่งสอนของมัน เขาจะเป็นบุคคลที่มี
ความสุขที่สุด อยู่ในจุดที่สูงที่สุดของการเป็นคนที่มีวินัยในตนเอง ขัดเกลาตนเองด้วย
ค่านิยมทางศีลธรรมอันดี และมีอุปนิสัยอันสูงส่ง ทั้งคนใกล้และไกล ผู้สนับสนุนหรือ
ฝ่ายตรงข้ามต่างเป็นพยาน
17
หากเพียงมองดูสภาพของมุสลิมที่ไม่สนใจในศาสนาของตน และหันเหไปจาก
แนวทางที่เที่ยงตรงนั้น มันเป็นการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมเลยแม้แต่น้อย และมันคือ
ความอยุติธรรมนั่นเอง
สุดท้ายนี้ นี่คือการเรียกร้องสาหรับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม เพื่อให้เขาได้รู้จักศาสนาอิสลาม
อย่างถูกต้องและเข้าสู่การนับถือศาสนาอิสลาม
และไม่มีสิ่งใดสาหรับผู้ที่ต้องการนับถือศาสนาอิสลาม นอกจาก แค่เพียงกล่าวค า
ปฏิญาณว่า (อัชฮะดู อัลลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะอันนะ มุฮัมมะดัรเราะซูลุลลอฮ์) "ฉัน
ขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น
และแท้จริงมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์"และเรียนรู้ศาสนา เพื่อเขาจะได้ปฏิบัติใน
สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงบัญญัติสาหรับเขายิ่งเขาเรียนรู้และปฏิบัติมากเท่าไร ความสุขและ
สถานะของเขากับพระเจ้าก็จะสูงขึ้นเท่านั้น.