บทความ

ความวุ่นวายและการทดสอบ


แห่งโลกดุนยา





ดร.อะมีน บนิ อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์


แปลโดย : อัฟนาน เพ็ชรทองคำ


ตรวจทานโดย : อัสรัน นิยมเดชา


ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต


อัล-มุลกอฮฺ





ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานีย่งิ เสมอ


ความวุ่นวายและการทดสอบแห่งโลกดุนยา


มวลการสรรเสริญเป็นสทิ ธิ์ของอลั ลอฮฺ ขอความสขุ ความจำเริญ


และศานติจงประสบแด่ ศาสนทตู ของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณ


ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคี


ใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าว


ของอลั ลอฮฺและเป็นศาสนทตู ของพระองค์


การทดสอบที่ยิ่งใหญ่ ประการหนงึ่ ที่อลั ลอฮฺและศาสน


ทตู ของพระองค์ได้เตือนไว้คือ การทดสอบแหง่ โลกนี ้ อลั ลอฮฺ ตะ


อาลาตรัสวา่





ความว่า “และจงเปรียบอุทาหรณ์การดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้แก่พวกเขา ประหนึ่งนํ้าที่เราหลั่งมันลงมาจากฟากฟ้า ดังนั้นพืชผลในแผ่นดินก็จะคลุกเคล้าไปกับนํ้า แล้วมันก็


4


แห้งกรังเป็ นเศษเป็ นชิน้ ซึ่งลมจะพัดมันให้ปลิวว่อน


และอัลลอฮฺเป็ นผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่ง ” (สูเราะฮฺอลั


กะฮฺฟ์ : 45)


และพระองค์ตรัสว่า





ความว่า “พึงทราบเถิดว่า แท้จริงการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มิใช่อื่นใด เว้นแต่เป็นการละเล่นและการสนุกสนานร่าเริง และเครื่องประดับและความโอ้อวดระหว่างพวกเจ้า และการแข่งขันกันสะสมในทรัพย์สินและลูกหลาน เปรียบเสมือนเช่นนํ้าฝนที่การงอกเงยพืชผลยังความพอใจให้แก่กสิกรแล้วมันก็เหี่ยวแห้ง เจ้าจะเห็นมันเป็นสีเหลืองแล้วมันก็กลายเป็นเศษเป็นชิ้นแห้ง ส่วนในวันปรโลกนั้นมีการลงโทษอย่างสาหัส และมีการอภัยโทษและความโปรดปรานจากอัลลอฮ และการมีชีวิตอยู่ในโลก


5


นี้ มิใช่อื่นใดนอกจากการแสวงหาผลประโยชน์แห่งการ


หลอกลวงเท่านั้น” (สูเราะฮฺอัล-หะดีด: 20)


ท่านนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ขอความค้มุ ครอง


จากอลั ลอฮฺให้พ้นจากการทดสอบและความวนุ่ วายของโลกนี ้


ท่าน อัมรฺ บิน บยั มูน อลั -เอาดีย์ กลา่ ววา่ ท่านสะอฺด์


สอนคำตา่ งๆ เหล่านีใ้ ห้กับบุตรหลานของท่าน เหมือนกับคณุ ครู


สอน เด็กๆ ให้เขียนหนังสือ และทา่ นกลา่ ววา่ ท่าน เราะสลู


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั เคยกลา่ วขอความค้มุ ครองทกุ ๆ


ครัง้ หลงั ละหมาดวา่





ความว่า “โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากความขลาดกลัว และขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากความตระหนี่ถี่เหนียว และขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากการที่ฉันจะกลับไปสู่สภาพตํ่าต้อยที่สุดของอายุ ขอความคุ้มครองจาก


6


พระองค์จากการวุ่นวาย (หรือการทดสอบ ) แห่งโลกนี้


และขอความคุ้มครองจากพระองค์ให้พ้นจากการลงโทษ


ในไฟนรก” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรียฺ: 2822)


อลั ลอฮฺทรงห้ามศาสนทตู ของพระองค์ ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะ


ลัยฮิวะสัลลัม ที่จะพินิจมองความสวยงามและเพริศแพร้วแห่ง


โลกนี ้พระองคต์ รัสวา่





ความวา่ “และจงอดทนต่อตัวของเจ้า ร่วมกับบรรดาผู้


วิงวอนต่อพระผู้เป็ นเจ้าของพวกเขาทงั้ ยามเช้าและยาม


เย็น โดยปรารถนาความโปรดปรานของพระองค์ และอย่า


ให้สายตาของเจ้าหันเหออกไปจากพวกเขา ขณะที่เจ้า


ประสงค์ความสวยงามแห่งชีวิตของโลกนี้ ” (สูเราะฮฺอัล -


กะฮฺฟ์ : 28)


และอลั ลอฮฺตะอาลาตรัสวา่





ความวา่ “และเจ้าจงอย่าทอดสายตาของเจ้าไปยังสิ่งที่เรา


ได้ให้ความเพลิดเพลินแก่บุคคลประเภทต่างๆ ของพวกผู้


ปฏิเสธศรัทธา ซึ่งความสุขสาํ ราญในโลกดุนยา เพื่อเราจะ


ได้ทดสอบพวกเขาในการนี้ และการตอบแทนของพระเจ้า


นัน้ ดีย่งิ กว่าและจีรังย่งิ กว่า” (สเู ราะฮฺฏอฮา: 131)


และอัลลอฮฺทรง อธิบายว่าการที่พระองค์ทรงประทาน


ความเพริศแพร้วสะดวกสบายตา่ งๆ ในโลกนี ้ ให้ แก่บรรดาผู้


ปฏิเสธศรัทธ านัน้ ก็เพราะว่าสิ่งเหล่านัน้ ไม่มีค่าใดๆ ณ ที่


พระองค์ และเพื่อเป็นการทดสอบพวกเขาเหล่านั้น พระองค์ตรัส





ความว่า “ดังนั้นจงอย่าให้ทรัพย์สมบัติของพวกเขา และอย่าให้ลูกๆของพวกเขาเป็นที่พึงใจแก่เจ้า แท้จริงอัลลอฮฺทรงต้องการที่จะลงโทษพวกเขาด้วยสิ่งเหล่านั้นในชีวิต


8


แห่งโลกนี้ และให้ชีวิตของพวกเขาออกจากร่างไปขณะที่


พวกเขาเป็ นผู้ปฏิเสธศรัทธาเท่านัน้ ” (สเู ราะฮฺ อตั -เตาบะฮฺ:


55)


และพระองค์ตรัสวา่





ความวา่ “พวกเขาคิดหรือว่าแท้จริงสิ่งท่เี ราได้ให้แก่พวก


เขา เช่น ทรัพย์สมบัตแิ ละลูกหลานนัน้ เราได้รีบเร่งให้


ความดีต่างๆ แก่พวกเขากระนัน้ หรือ ? เปล่าเลย แต่ทว่า


พวกเขาไม่มีความรู้สึกหรือ?” (สเู ราะฮฺ อลั -มอุ ์มินนู : 55-56)


และอลั ลอฮฺตรัสวา่





ความว่า “และหากมิใช่มนุษย์ทั้งหลายจะได้เป็นประชาชาติหนึ่งเดียวกันแล้ว แน่นอนเราจะให้ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่อ


9


พระผู้ทรงกรุณาปรานีมีบ้านของพวกเขาหลังคาทาํ ด้วย


เงิน และบันไดที่พวกเขาขนึ้ (กท็ าํ ด้วยเงนิ ) และบ้านของ


พวกเขามีประตูและเตียงนอน (ทำด้วยเงิน) ซึ่งพวกเขาจะ


นอนเอกเขนกบนมัน และ (เราจะให้เครื่องประดับแก่พวก


เขาที่ทาํ ด้วย ) ทองคาํ แต่ทงั้ หมดนัน้ เป็ นเพียงปัจจัย


ชั่วคราวแห่งชีวิตในโลกนีเ้ ท่านัน้ ส่วนในปรโลก ณ ท่พี ระ


เจ้าของเจ้านัน้ สาํ หรับบรรดาผู้ยาํ เกรง ” (สเู ราะฮฺ อซั -ซุครุฟ:


33-35)


มีรายงานจาก หะดีษของสะฮฺล์ บิน สะอฺด์ เราะฎิยลั ลอ


ฮุอนั ฮฺ กลา่ ววา่ ท่านนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “หากว่าโลกนี้ มีค่ า เทียบเท่ากับปี กของ ยุง ณ


ที่อัลลอฮฺ ผู้ปฏิเสธศรัทธา ก็คงไม่ได้ ดื่มนำ้ จาก โลกนี้เลย


แม้เพียง อึกเดียว ” (บนั ทกึ โดยอตั -ตริ มีซีย์ ในสุนันของท่าน


เลขที่หะดีษ 2320 ท่านอตั -ติรมีซีย์ กลา่ ววา่ เป็นหะดีษ เศาะฮีหฺ


เฆาะรีบ จากการรายงานในสายนี)้


10


ท่านญาบิร เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เล่า ว่า ทา่ นเราะสลู


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั เดินผ่านตลาดจากทางเนินสูง โดย


มีผ้คู นมากมายอยรู่ อบข้างทา่ น เมื่อท่านเดินผ่านซากศพแพะซึ่ง


มีใบหูเล็กตัวหนงึ่ ท่านก็จบั หขู องมนั ขนึ้ มาและกลา่ ววา่ “มีผู้ ใด


ในหมพู่ วกทา่ นต้องการมนั ในราคา หนงึ่ ดิรฮัมไหม ?” พวกเขา


กลา่ ววา่ “พวกเราไมต่ ้องการมนั เลย เราจะเอามนั ไปทำอะไรเลา่


ครับ?” ทา่ นกลา่ ววา่ “พวกทา่ นชอบที่จะให้มนั เป็นของพวกทา่ น


ไหม?” (ให้ไปฟรีๆ เลยเอาไหม - ผู้แปล) พวกเขากลา่ ววา่ “ขอ


สาบานตอ่ อลั ลอฮฺ หากวา่ มนั ยงั มีชีวิตอยู่ตัวมันก็มีส่วนที่ เป็น


ตำหนิเพราะว่ามันหูเล็ก แล้วเมื่อมันเป็น ซาก ศพแล้ว จะไม่


เลวร้ายกวา่ หรือครับ ?!” ทา่ นเราะสลู ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ


วะสลั ลมั จึงกลา่ ววา่





ความวา่ “ดังนัน้ แหละ ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ โลกนี้ไร้ค่ า ณ


ที่อัลลอฮ ยิ่งกว่าความไร้ค่าของสิ่งนี้ (ซากศพของแพะหู


เล็ก) ในความคิดของพวกท่านเสียอีก ” (บนั ทกึ โดยมสุ ลิม


หะดีษเลขที่ ๒๙๕๗)


11


ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เตือนให้


ประชาชาติของท่านระวังการทดสอบและความเพริศแพร้วของ


โลกนี ้ ดงั รายงานหะดีษจาดทา่ นอมั รฺ บิน เอาฟฺ เราะฎิยลั ลอฮุ


อนั ฮฺ เล่าว่า ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ มิใช่ความยากจนท่ฉี ันเกรง


ว่าจะประสบกับพวกท่าน แต่ฉันเกรงว่าโลกดุนยาจะถูก


เปิ ดแผ่ ให้กับพวกท่าน เหมือนกับท่เี คยถูกเปิ ดแผ่ให้กับ


ประชาชาตกิ ่อนหน้าพวกท่าน แล้วพวกท่านจะแก่งแย่งชิง


โลกนีกั้น เหมือนกับท่พี วกเขาเคยแก่งแย่งชิงโลกนีม้ า


ก่อนแล้ว และมันจะทาํ ลายพวกท่านดุจเดียวกับที่เคย


ทาํ ลายผู้คนก่อนหน้าท่าน มาแล้ว " (บนั ทึกโดย อลั -บคุ อรียฺ


เลขที่หะดีษ 4015 และมสุ ลมิ เลขที่หะดีษ 2961)


ท่าน อัช-ชาฟิอีย์ (ขอพระองค์ทรงเมตตาท่าน) กล่าวว่า “แท้จริงสำหรับอัลลอฮฺมีบ่าวผู้ชาญฉลาด ละทิ้งโลกนี้และเกรงกลัวความวุ่นวาย พวกเขาพิจารณาถึงโลกนี้แล้วพบว่า ... มัน


12


มิใช่ที่พักพิงอันถาวร พวกเขาจึงให้โลกนีเ้ป็นคลื่นแห่งทะเล เป็น


สิ่งนำพา ให้การงานที่ดีล่องผ่านไป”


และท่านอิบนุ อบี หะศีนะฮฺ กลา่ ววา่ “ดจุ ความฝันเมื่อ


ยามนอน หรือดงั่ เช่นเงาที่ต้องลบเลือนไป ... แท้จริงผ้ทู ี่ฉลาดจะ


ไม่ถูกหลอกกับสิ่งเหล่านีเ้ป็นอันขาด”


ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เป็นผู้ที่ห่างไกล


จากโลกนีแ้ ละความสวยงามของมนั ท่านอบั ดลุ ลอฮฺ บิน มสั อูด


เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เลา่ วา่ ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั


นอนบนเสื่อ เมื่อท่านลุกขึน้ พบว่ามีร่องรอยเสื่อบนสีข้างของ


ท่าน พวกเรากลา่ ววา่ “โอ้ทา่ นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ พวกเราจะ


หาที่นอนมาให้กับท่านสักผืนหนงึ่ ” ทา่ นกลา่ ววา่





ความวา่ “โลกนีไ้ ม่เกี่ยวข้องกับฉัน ฉันกับโลกนีเ้ ป็ น


เหมือนกับผู้ขี่พาหนะท่แี สวงหาร่มเงาอยู่ใต้ต้นไม้


หลังจากนัน้ ก็จากไปและทงิ้ (ต้นไม้นัน้ ) ไว้เบือ้ งหลังเขา ”


13


(บนั ทึกโดย อตั -ตริ มีซีย์ เลขที่หะ ดีษ 2377 ท่านอตั -ตริ มีซีย์


กลา่ ววา่ เป็นหะดีษหะสันเศาะฮีหฺ)


ท่านอุมรั เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เล่าว่า ท่านขึน้ ไปยงั ห้องที่


เป็นระเบียงของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เมื่อครัง้ ที่


ทา่ นทำการอีลาอ์บรรดาภรรยาของทา่ น (คือการสาบานว่าจะไม่


ร่วมหลับนอนกับภรรยาเพื่อเป็นการสั่งสอนและดัดนิสัย – ผู้


แปล) เมื่อท่านอุมัรฺ เห็นว่าฝุ่นทรายบนเสื่อทำให้เกิดร่องรอยบน


สีข้างของทา่ น สองนยั น์ตาของทา่ นจงึ เออ่ ล้นร้องไห้ และกลา่ ว


ว่า “โอ้ทา่ นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ ในขณะที่ กิสรอ (คุสโรแห่ง


เปอร์เซีย) และก็อยศอ็ รฺ (ซีซาร์แห่งโรม) ใช้ชีวิต อยู่ทา่ มกลาง


ความสขุ สำราญและสะดวกสบาย แตท่ ่านซึ่งเป็นถึงผู้ที่อัลลอฮฺ


ทรงเลือกจากสิ่งที่พระองค์สร้างกลบั อย่ใู นสภาพเช่นนี ้!” ทา่ นน


บี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ซึ่งนอนตะแคงอยู่จึงลุกขึน้ นงั่


และกลา่ ววา่





ความวา่ “ท่านมี ความสงสัยในตัวฉันหรือ โอ้ บุตรของอัล-


ค็อตตอบ!?” และกล่าวต่อว่า “พวกนัน้ คือกลุ่มชนที่ถูกเร่ง


ให้ได้รับความดีในชีวิตของโลกนีต้ ่างหาก”


และในบางสายรายงานระบวุ า่





ความวา่ “ท่านไม่พอใจที่จะให้ความสุขสบายเป็ นของพวก


เขาในโลกนี้ และเป็ นของเราในโลกหน้ากระนัน้ หรือ ?”


(บนั ทึกโดย อลั -บคุ อรีย์ หะดีษเลขที่ 4913 และมสุ ลมิ หะดีษ


เลขที่ 1479)


ท่านอะลี เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ กลา่ วถึงดนุ ยาไว้วา่ “เป็น


ความเหน็ดเหนื่อยในตอนต้น สดุ ท้ายเป็นการสญู สลาย สิ่งที่


อนมุ ตั ใิ ห้ทำได้มีการคดิ บญั ชี สิ่งที่ถูกห้ามไม่ให้ทำมีการลงโทษ


ผ้ใู ดทำถกู ต้อง (ในโลกนี ้) เขาปลอดภยั ผ้ใู ดโลภเขาจะเสียใจ


ผ้ใู ดพอเพียงเขาจะเพลดิ เพลนิ ผ้ใู ดที่ไมพ่ อเพียงเขาจะเศร้าโศก


ผ้ใู ดแสวงหามนั จะสร้างความวนุ่ วายให้เขา ผ้ใู ดหลีกหา่ ง มนั จะ


15


มาหา ผ้ใู ดที่จบั จ้อง มนั จะทำให้เขาตาบอด ผ้ใู ดที่มองอยา่ ง


พิจารณา มันจะทำให้เขามองเห็น”


อบุลหะสนั อตั -ตะฮามีย์ กลา่ วถึงโลกดนุ ยาวา่ “มนั ถูก


สร้างขนึ้ ให้มีความสกปรกขนุ่ หมอง แตท่ า่ นกลบั ปราถนาที่จะได้


ครอบครองมนั ในสภาพที่บริสทุ ธ์ิสวยงาม ปราศจากความ


สกปรกใดๆทัง้ สิน้ "


และทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั สงั่ เสีย


บรรดาสหายของทา่ นให้มีความสมถะกบั โลกนีแ้ ละความ


สวยงามของมนั ดงั มีรายงานหะดีษจากทา่ นอบั ดลุ ลอฮฺ บนิ


อมุ รั เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮมุ า กลา่ ววา่ ทา่ นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั จบั บา่ ทงั้ สองของฉนั และกลา่ ววา่





ความวา่ “ท่านจงอยู่ในโลกนีเ้ สมือนว่าท่านเป็ นคนแปลก


หน้าหรือผู้ผ่านทาง”


ท่านอิบนอุ มุ ัร เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ กลา่ ววา่ “เมื่อถึงเวลา


เช้าจงอย่ารอจนถึงตอนเย็น เมื่อถึงตอนเย็นอย่ารอจนถึงเช้า


16


และจงฉกฉวยเวลาขณะที่ท่านยังมีสุขภาพดีก่อนที่จะเจ็บป่วย


และขวนขวายขณะที่ยังมีชีวิตเพื่อชีวิตหลังความตาย ” (บันทึก


โดยอลั -บคุ อรียฺ ในหนังสือเศาะฮีหฺของท่าน เลขหะดีษ 6416)


บรรดาสหายของท่านนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั


ต่างยึดถือคำแนะนำแห่งนบีผู้ทรงเกียรติ ดงั รายงานจากหะดีษ


ของท่าน อนสั บิน มาลิก เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เล่าว่า


เมื่อครัง้ ที่ ท่านสัลมานล้มป่วยลง ท่านสะอฺด์จึงเข้าไป


เยี่ยมทา่ น และเห็นท่านร้องไห้ ท่านสะอฺด์จึงกล่าวกบั ท่านว่า


“อะไรที่ทำให้ท่านร้องไห้หรือ โอ้พี่น้องของฉัน! ท่านไม่ได้เคยอยู่


ร่วมกับทา่ นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั


หรอกหรือ?”


ท่านสัลมานกลา่ ววา่ “ฉนั ไมไ่ ด้ร้องไห้เพราะอยา่ งหนงึ่


อยา่ งใดที่ทา่ นกลา่ วเลย ฉนั ไมไ่ ด้ร้องเพราะความโลภในโลกนี ้


หรือว่า รังเกียจ โลกหน้า แตว่ า่ ทา่ นศาสนทตู ของอลั ลอฮฺ


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั สงั่ เสียฉันไว้อย่างหนงึ่ ซงึ่ ฉันเห็น


ว่าฉันได้ละเมิดคำสงั่ เสียนัน้ แล้ว"


17


ทา่ นสะอฺด์ก็ถามวา่ “แล้วทา่ นสงั่ เสียอะไรแก่ท่านหรือ?”


ท่านสัลมานกลา่ ววา่ “ท่านสงั่ เสียฉันว่า ให้คนหนงึ่ คนใดในหมู่


พวกทา่ นมีความพอเพียงกับสิ่งที่เสมือนเสบียงของผู้เดินทาง ซึ่ง


ฉันเห็นว่าฉันได้ละเมิดคำสงั่ เสียนัน้ แล้ว ” ท่านษาบิตผ้รู ายงาน


หะดีษกลา่ ววา่ “ฉันทราบมาวา่ เขาไมไ่ ด้ทิง้ อะไรไว้ เลยนอกจาก


ยี่สิบ กว่าดิรฮมั เท่านัน้ ที่เป็น ทรัพย์สิน ที่อย่กู บั เขา ” ( บนั ทึก


โดยอิบนมุ าญะฮฺ ในเศาะฮีหฺของท่าน เลขหะดีษ 3312)



 



กระทู้ล่าสุด

ความแข็งกระด้างของหัว ...

ความแข็งกระด้างของหัวใจ

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ั ...

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ัล-หิจญ์รฺ อายะฮทฺ ี่ ๔๕

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อ ...

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อื่น

ความวุ่นวายและการทดสอ ...

ความวุ่นวายและการทดสอบ แห่งโลกดุนยา