บทความ

ทำไมอิสลามถึงห้ามกินหมู


       แน่นอนอย่างยิ่ง ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าได้สั่งใช้ให้ปฏิบัตินอกจากว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ และไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ได้ทรงห้ามนอกจากว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่อันตรายและมีโทษ  บางเรื่อง มนุษย์ยังไม่รู้เหตุผล หรือบางเรื่องมนุษย์สามารถค้นพบหาเหตุผลได้ ด้วยกระบวนการศึกษาธรรมชาติ หรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์  ดังนั้น หมู จึงไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวที่อิสลามห้ามรับประทาน สัตว์ที่มีพิษ หรือมีโทษต่อร่างกายมนุษย์ก็เป็นที่ต้องห้าม แม้แต่สัตว์อื่นเช่น วัว ไก่ เป็ด แพะ แกะ หากว่าไม่ได้แปรรูปด้วยกรรมวิธีฮาลาล มุสลิมก็ไม่สามารถทานได้เช่นกัน  


“ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง(จากกลุ่มปศุสัตว์) และเลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ ณ ที่มัน(ขณะเชือด)...”


                                                              (อัลกุรอ่าน บท อัลมาอิดะห์ 3 ) 


        เป็นที่ทราบกันดีว่า ธรรมชาติของร่างกายต้องการอาหารเพื่อการเจริญเติบโต และพลังงานในการดำเนินชีวิต หากพื้นฐานหรือจุดเริ่มต้นไม่ดีเสียก่อนแล้ว ผลลัพธ์ต่างๆที่ตามมา ย่อมเสียหายและเกิดโทษตามไปด้วย ท่านนบีมูฮัมหมัด ได้กล่าวว่า “จะไม่ได้เข้าสวรรค์(สำหรับ)ร่างกายที่บริโภคสิ่งต้องห้าม” (รายงานโดย อะห์มัด 14441)          


ทางการแพทย์และโภชนาการได้ค้นพบว่า เมื่อใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูเนื้อสัตว์ทุกชนิด จะมีพยาธิตัวเล็กๆ ที่ตามนุษย์มองไม่เห็น อยู่มากน้อยต่างกัน แต่ในเนื้อหมูมีพยาธิบางชนิด ซึ่งมีเกราะที่เกิดจากไขมันในเนื้อหมู ห่อหุ้มมันอยู่ โดยความร้อนจากการปรุงอาหารไม่สามารถทําลายมันได้ และยังมีการวิจัยออกมาว่า การกินเนื้อหมูนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดโรค ไม่น้อยกว่า 70 ชนิด ที่แตกต่างกัน ซึ่งบุคคลหนึ่ง จะมีหนอนพยาธิ (จากการกินเนื้อหมู) ได้หลายชนิด เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอ พยาธิตัวตืด มันจะแฝงตัวอยู่ในลำไส้ เป็นเวลานาน เซลล์ไข่ของมัน จะเข้าตามกระแสเลือด และสามารถไปถึงทุกส่วนของร่างกาย ถ้ามันเข้าไปในสมอง ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความจำเสื่อม ถ้ามันเข้าสู่หัวใจ ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจ ถ้ามันเข้าสู่ตับ ก็จะทำให้ตับถูกทำลาย มันสามารถทำลายอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย  


       มีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับเนื้อหมูว่า ถ้ามีการปรุงสุกเป็นอย่างดี ไข่ของพยาธิจะตาย แต่ในงานวิจัย ทางการแพทย์ในอเมริกา พบว่า ผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์จากโรคพยาธิ ( Trichura Tichurasis ) จากจำนวนยี่สิบสี่คน นั้น มียี่สิบสองคนที่ปรุงสุกเนื้อหมู เป็นอย่างดี บ่งชี้ได้ว่า ไข่พยาธิชนิดนี้ ที่มีอยู่ในเนื้อหมู จะยังไม่ตาย ภายใต้อุณหภูมิที่ใช้ในการปรุงอาหารปกติ ( )


อัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ว่า ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูกบัญญัติแก่ฉันนั้น มีสิ่งต้องห้ามแก่ผู้บริโภคที่จะบริโภคมัน เว้นแต่สิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง หรือเลือดที่ไหลออก หรือเนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม...” (อัลกุรอ่าน บท อัลอันอาม 145)


      แม้จะมีการเลี้ยงหมูในเชิงอุตสาหกรรมอาหารที่สะอาด ปลอดภัยอย่างไรก็ตาม แต่หากปล่อยหมูไปตามพื้นฐานลักษณะเดิมของมันแล้ว มันเป็นสัตว์ที่หากินของโสมม ตามธรรมชาติที่มันถูกสร้างมา


      กระนั้นก็ตามทีหากมุสลิมต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤติ เสี่ยงต่ออันตรายถึงชีวิต ไม่สามารถหาสิ่งใดเป็นอาหารนอกจากหมู หลักการศาสนาก็อนุโลมให้รับประทานได้ โดยเป็นเพียงการประทังชีวิตให้รอดเท่านั้น    


    ห้ามกิน แต่เหตุใดจึงสร้างหมูขึ้นมา ?  ต่อข้อถามนี้ มีสัตว์มากมายหลายชนิดที่พระองค์สร้างขึ้นโดยที่มนุษย์ก็ไม่ได้นำมันมาเป็นอาหารแต่อย่างใด มนุษย์ไม่กินหนอน ไส้เดือน ไม่ได้นำยุง แมลงวัน หรือผึ้งมาเป็นอาหาร ไม่ได้กินเนื้อม้า หรือเนื้อช้างกันเป็นวงกว้าง นั่นเป็นเพราะการสร้างของอัลลอฮ์นั้น มีความสมดุลของธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ ก่อให้เกิดดุลยภาพของทุกๆชีวิต มีสัตว์กินเนื้อ สัตว์กินพืช มีสัตว์ที่ถูกสร้างมาเพื่อกำจัดของเสีย และปฏิกูล หากปล่อยหมูให้อยู่ในธรรมชาติ มันก็ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเหยื่อในห่วงโซ่อาหาร ไม่ต่างจากสัตว์ถูกล่าประเภทอื่น


    ศาสนาจึงไม่ใช่การหาเหตุผลให้ตัวเอง หรือแปรเปลี่ยนไปตามความพึงพอใจของมนุษย์ ฉะนั้นแล้ว หลักการดำเนินชีวิตของผู้ที่มีความศรัทธาต่ออัลลอฮ์ คือการละทิ้งสิ่งที่พระองค์ได้บัญญัติเป็นข้อห้ามเอาไว้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่น เชื่อฟัง และมีความภักดีต่อพระองค์อย่างแน่นแฟ้น


      ในอิสลามได้วางพื้นฐานในเรื่องของอาหารโดยการส่งเสริมให้รับประทานสิ่งที่สะอาดและมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ และสติปัญญา ดั่งที่พระองค์ได้ตรัสว่า 


ความว่า "โอ้มนุษย์เอ๋ย  จงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดีๆจากสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และจงอย่าตามบรรดาแผนการของซาตาน แท้จริงมันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า"


                                                       (อัลกุรอ่าน บท อัลบากอเราะฮ์ 168 )



กระทู้ล่าสุด

ความแข็งกระด้างของหัว ...

ความแข็งกระด้างของหัวใจ

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ั ...

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ัล-หิจญ์รฺ อายะฮทฺ ี่ ๔๕

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อ ...

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อื่น

ความวุ่นวายและการทดสอ ...

ความวุ่นวายและการทดสอบ แห่งโลกดุนยา