บทความ





บทเรียนจากความตาย





] ไทย – Thai – تايلاندي [





ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์





แปลโดย :นิสรีน มะกูดี





ตรวจทานโดย : อัสรัน นิยมเดชา





ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต อัล-มุลกอฮฺ





2012 - 1433





﴿الموت وعظاته﴾





« باللغة التايلاندية »





د. أمين بن عبدالله الشقاوي





ترجمة: نسرين ماكودي





مراجعة: عصران نيومديشا





المصدر: كتاب الدرر المنتقاة من الكلمات الملقاة





2012 - 1433









ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ





เรื่อง ที่ 136





บทเรียนจากความตาย





มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรคงอภิบาลแห่งสากลจักรวาล ขอความสุขความจำเริญและความสันติจงประสบแด่ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตลอดจนวงศ์วานและมิตรสหายของท่าน ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว ไม่มีภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่า มุหัมมัดเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์





ผู้ที่หมกมุ่นในดุนยาหลงไปความงดงามและสนุกสนานของมันนั้น จิตใจของเขาจะหลงลืมการระลึกถึงความตาย และหากเขาระลึกถึง เขาจะทั้งเกลียดและพยายามหลีกหนีจากความตาย พระองค์อัลลอฮฺตรัสว่า





﴿ قُلۡ إِنَّ ٱلۡمَوۡتَ ٱلَّذِي تَفِرُّونَ مِنۡهُ فَإِنَّهُۥ مُلَٰقِيكُمۡۖ ثُمَّ تُرَدُّونَ إِلَىٰ عَٰلِمِ ٱلۡغَيۡبِ وَٱلشَّهَٰدَةِ فَيُنَبِّئُكُم بِمَا كُنتُمۡ تَعۡمَلُونَ ٨ ﴾ [الجمعة : 8]





ความว่าจงกล่าวเถิดมุหัมมัด แท้จริงความตายที่พวกท่านหนีจากมันไปนั้น มันจะมาพบกับพวกท่าน แล้วพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับและสิ่งเปิดเผย แล้วพระองค์จะทรงแจ้งแก่พวกท่านตามที่พวกท่านได้ประกอบกรรมไว้ (อัล-ญุมุอะฮฺ: 8)





และตรัสว่า





﴿ أَيۡنَمَا تَكُونُواْ يُدۡرِككُّمُ ٱلۡمَوۡتُ وَلَوۡ كُنتُمۡ فِي بُرُوجٖ مُّشَيَّدَةٖۗ ﴾ [النساء : 78]





ความว่าณ ที่ใดก็ตามที่พวกเจ้าปรากฏอยู่ ความตายก็ย่อมมาถึงพวกเจ้า แม้ว่าพวกเจ้าจะอยู่ในป้อมปราการอันสูงตระหง่านก็ตาม (อัน-นิสาอ์: 78)





และตรัสอีกว่า





﴿ كُلُّ نَفۡسٖ ذَآئِقَةُ ٱلۡمَوۡتِۗ وَنَبۡلُوكُم بِٱلشَّرِّ وَٱلۡخَيۡرِ فِتۡنَةٗۖ وَإِلَيۡنَا تُرۡجَعُونَ ٣٥ ﴾ [الأنبياء : 35]





ความว่าทุกชีวิตย่อมลิ้มรสความตาย และเราจะทดสอบพวกเจ้าด้วยความชั่วและความดี และพวกเจ้าจะต้องกลับไปหาเราอย่างแน่นอน(อัล-อันบิยาอ์: 35)





ส่วนคนที่รู้จักผู้อภิบาลของเขา จะนึกถึงความตายอยู่เสมอ โดยยึดเอาคำสั่งเสียของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ที่กล่าวว่า:





«أَكْثِرُوْا ذِكْرَ هَاذِمِ اللَّذَّاتِ – يَعْنِي المَوْتَ» [الترمذي برقم 2307]





ความว่า "พวกท่านจงรำลึกถึงสิ่งที่ทำลายความสนุกสนานให้มากเถิด หมายถึงความตาย" (บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ หะดีษเลขที่ 2307)





มีรายงานซึ่งบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ จากหะดีษของท่านอิบนุอุมัรเล่าว่า มีชายชาวอันศอรคนหนึ่งมาหาท่านนบี เขาได้ให้สลามแก่ท่านและกล่าวว่า:





يَا رَسُوْلَ اللهِ، أَيُّ المُؤْمِنِيْنَ أَفْضَلُ؟ قَالَ : «أَحْسَنَهُمْ خُلُقًا»، قَالَ: فَأَيُّ المُؤْمِنِيْنَ أَكْيَسُ؟ قَالَ: «أَكْثَرُهُم لِلْمَوْتِ ذِكْرًا، وَأَحْسَنُهُمْ لِمَا بَعْدَهُ اِسْتِعْدَادًا، أُولئِكَ الأَكْيَاسُ» [ابن ماجه برقم 4259]





ความว่า: โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ผู้ศรัทธาคนใดคือผู้ที่ประเสริฐที่สุด? ท่านกล่าวตอบว่า: "คนที่มีมารยาทดีที่สุด" เขากล่าวถามอีกว่า: แล้วผู้ศรัทธาคนใดที่ฉลาดที่สุด? ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตอบว่า:คนที่ระลึกถึงความตายมากๆ และเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตหลังความตายเป็นอย่างดี คนเหล่านั้นคือคนที่ฉลาดที่สุด (อิบนุ มาญะฮฺ หะดีษเลขที่ 4259)





ท่านหะสัน อัล-บัศรียฺ กล่าวว่า "ความตายนั้นจะเปิดโปงดุนยา และจะไม่ทิ้งความสุขใดๆไว้เลย บ่าวคนใดบังคับจิตใจของเขาให้ระลึกถึงความตายได้ ดุนยาและสรรพสิ่งในดุนยาก็จะเป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยด้อยค่าสำหรับเขา





กวีท่านหนึ่งกล่าวว่า:





لا طِيْبَ للعَيْشِ ما دَامتْ منغَصة لِذاتِهِ بادّكارِ المَوْتِ والهَرمِ





"ชีวิตใดจะสุขหากยังทุกข์ยากเพราะคิดถึงการจากลาและวัยชรา"





ท่านอุมัร บิน อับดุลอะซีซ กล่าวว่า "หากหัวใจของฉันหลงลืมการรำลึกถึงความตายชั่วขณะหนึ่ง มันจะพบกับหายนะ" และบางท่านกล่าวว่า "ผู้ที่ระลึกถึงความตายมากๆเขาจะได้รับเกียรติสามประการด้วยกันคือ การรีบกลับเนื้อกลับตัว หัวใจที่สงบ และปฏิบัติอิบาดะฮฺอย่างกระฉับกระเฉง ส่วนผู้ที่หลงลืมความตาย จะถูกลงทัณฑ์ด้วยสามประการคือ ผัดผ่อนการกลับเนื้อกลับตัว ละทิ้งความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมี และคร้านที่จะทำอิบาดะฮฺ





ความตายมีทั้งความทุกข์และความเจ็บปวด เป็นสิ่งที่ทุกชีวิตต้องพบเจอ พระองค์อัลลอฮฺอาจทรงผ่อนหนักให้แก่บ่าวของพระองค์บางคน เช่น ผู้ที่ตายชะฮีด เพราะคมดาบที่ฟันลงบนร่างของพวกเขานั้นเป็นการทดสอบความศรัทธาที่แท้จริงที่เพียงพอแล้ว ดังปรากฏในหะดีษเศาะฮีหฺ (บันทึกโดยอันนะสาอีย์ หะดีษเลขที่ 2053)





และความเจ็บปวดนี้อาจรุนแรงสำหรับบางคน เพื่อบาปนั้นจะได้เบาบางลง เป็นความเมตตาและเพื่อยกระดับให้แก่เขา เช่นบรรดานบี (ขอพระองค์อัลลอฮฺพึงพอใจพวกเขาทั้งหมด) นำโดยท่านนบีมุหัมมัด บิน อับดุลลอฮฺ มวลการสรรเสริญและความสันติสุขจงมีแด่ท่าน ผู้ซึ่งเผชิญกับความตายที่หนักหน่วง ทั้งที่ท่านเป็นบุคคลที่พระองค์อัลลอฮฺทรงรักยิ่ง





และมีบันทึกจากหะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่าในมือของท่านนบีมีขันหรือภาชนะใส่น้ำชิ้นหนึ่ง ท่านนำมือของท่านจุ่มลงไปในน้ำ จากนั้นใช้มือทั้งสองลูบหน้า และกล่าวว่า:





« لَا إِلهَ إِلَّا اللهُ ، إِنَّ لِلمَوْتِ سَكْرَاتٍ»





“ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงความตายนั้นมีแต่ความเจ็บปวด





จากนั้นท่านยกมือขึ้นและกล่าวว่า โอ้อัลลอฮฺ ขอให้ข้าพระองค์ได้อยู่ท่ามกลางมิตรสหายผู้สูงส่ง (บรรดามะลาอิกะฮฺและศาสนทูต) ด้วยเถิด" จนกระทั่งเสียชีวิต" (เศาะฮีหฺอัล-บุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 4449)





และขณะที่อาการท่านนบีเริ่มทรุดลง จนทำให้ท่านหมดสติ ท่านหญิงฟาติมะฮฺกล่าวว่า "โอ้พ่อจ๋า" ท่านนบีจึงกล่าวกับนางว่า:





«لَيْسَ عَلَى أَبِيْكِ كُرْبُ بَعْدَ اليَوْمِ»





หลังจากวันนี้จะไม่มีความเจ็บปวดใดกับพ่อของเธออีกแล้ว





กระทั่งความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้น ท่านจึงกล่าวว่า





«هَرِيقُوا عَلَيَّ مِنْ سَبْعِ قِرَبٍ لَمْ تُحْلَلْ أَوْكِيَتُهُنَّ لَعَلِّي أَعْهَدُ إِلَى النَّاسِ» [البخاري برقم 4446]





พวกท่านจงนำเหยือกน้ำเจ็ดเหยือก ที่ยังไม่เปิดฝา (หมายถึงน้ำสะอาด) มาพรมใส่ฉันหน่อย เพื่อที่ฉันนั้นจะได้สั่งเสียผู้คน" (อัลบุคอรียฺ 4446)





และทุกครั้งที่ท่านนบีทำความสะอาดร่างกายและตั้งใจที่จะนำละหมาด ท่านก็หมดสติไปถึง 3 ครั้ง (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ 418)





ท่านหญิงอาอิชะฮฺ กล่าวว่า "ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เสียชีวิตในอ้อมกอดของฉัน และฉันไม่เคยกลัวความตายอันเจ็บปวดของผู้ใดอีกเลยหลังจากนั้น" (บันทึกโดย อัล-บุคอรียฺ: 4446)





ความเจ็บปวดเหล่านี้สำหรับผู้ปฏิเสธศรัทธาจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และผู้ฝ่าฝืนก็เช่นเดียวกัน พระองค์อัลลอฮฺตรัสว่า





﴿ وَلَوۡ تَرَىٰٓ إِذِ ٱلظَّٰلِمُونَ فِي غَمَرَٰتِ ٱلۡمَوۡتِ وَٱلۡمَلَٰٓئِكَةُ بَاسِطُوٓاْ أَيۡدِيهِمۡ أَخۡرِجُوٓاْ أَنفُسَكُمُۖ ٱلۡيَوۡمَ تُجۡزَوۡنَ عَذَابَ ٱلۡهُونِ بِمَا كُنتُمۡ تَقُولُونَ عَلَى ٱللَّهِ غَيۡرَ ٱلۡحَقِّ وَكُنتُمۡ عَنۡ ءَايَٰتِهِۦ تَسۡتَكۡبِرُونَ ٩٣ ﴾ [الأنعام: ٩٣]





ความว่า "และหากเจ้าจะได้เห็นขณะที่บรรดาผู้อธรรมอยู่ในภาวะคับขันแห่งความตาย และมลาอิกะฮฺกำลังแบมือของพวกเขา โดยกล่าวว่าจงให้ชีวิตของพวกท่านออกมา วันนี้พวกท่านจะได้รับการตอบแทนซึ่งโทษแห่งการต่ำต้อย เนื่องจากที่พวกท่านกล่าวให้ร้ายแก่อัลลอฮโดยปราศจากความจริง และเนื่องจากการที่พวกท่านแสดงความยโสต่อบรรดาโองการของพระองค์ (อัล-อันอาม: 93 )





และตรัสว่า





﴿ وَلَوۡ تَرَىٰٓ إِذۡ يَتَوَفَّى ٱلَّذِينَ كَفَرُواْ ٱلۡمَلَٰٓئِكَةُ يَضۡرِبُونَ وُجُوهَهُمۡ وَأَدۡبَٰرَهُمۡ وَذُوقُواْ عَذَابَ ٱلۡحَرِيقِ ٥٠ ﴾ [الأنفال: ٥٠]





ความว่า “และหากว่าเจ้าเห็นขณะที่มลาอิกะฮฺเอาวิญญาณของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่นั้นพวกเขา (มลาอิกะฮฺ) จะตีใบหน้าของพวกเขา (ผู้ปฏิเสธ) และหลังของพวกเขา และกล่าวว่า พวกเจ้าจงลิ้มการลงโทษแห่งการเผาไหม้เถิด (อัล-อันฟาล 50 )





อิหม่ามอะฮฺหมัดได้บันทึกไว้ในมุสนัดของท่านจากหะดีษซึ่งรายงานโดยท่าน อัล-บะรออ์ บิน อาซิบ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า





«وَ إِنَّ العَبْدَ الكَافِرَ – وَ فِي رِوَايَةِ الفَاجِرَ – إِذْ كَانَ فِي انْقِطَاعٍ مِنَ الُّدنْيَا ، وَ إِقْبَالٍ مِنَ الآخِرَةِ ، نَزَلَ مِنَ السَّمَاءِ مَلَائِكَةٌ – غِلَاظٌ شِدَادٌ – سُودُ الوُجُوْهِ ، مَعَهُمُ المسوْحُ مِنَ النَّارِ ، فَيَجْلِسُوْنَ مِنْهُ مَدَّ البَصَرُ ، ثُمَّ يَجِيءُ مَلَكُ المَوْتِ حَتَّى يَجْلِسَ عِنْدَ رَأْسِهِ ، فَيَقُوْلُ : أَيَّتُهَا النَّفْسُ الخَبِيْثَةُ ، اخْرُجِي إِلَى سَخَطٍ مِنَ اللهِ وَغَضَبٍ ، قَالَ: فَتَفَرَّقَ فِي جَسَدِهِ ، فَيَنْتَزِعَهَا كَمَا يَنْتَزِعُ السَّفُوْدُ – الكثير الشعب - مِنَ الصُّوْفِ المَبْلُوْلِ ، فَتَقَطَّعَ مَعَهَا العُرُوْقُ وَالعَصَبُ» [مسند الإمام أحمد 4/287-288]





ความว่าแท้จริงบ่าวผู้ปฏิเสธ อีกรายงานหนึ่งคือ บ่าวที่ชั่วช้า เมื่อขณะที่เขากำลังจะจากดุนยาและกำลังเผชิญหน้ากับโลกอาคิเราะฮฺ มลาอิกะฮฺผู้แข็งกร้าวกลุ่มหนึ่งจะลงมาจากฟากฟ้า มีใบหน้าที่หมองคล้ำ สวมใส่อาภรณ์ที่หยาบกระด้างซึ่งทำจากเปลวไฟ โดยพวกเขาจะนั่งลงตรงปลายสายตา จากนั้นมะละกุลเมาตฺ (มะลาอิกะฮฺแห่งความตาย) ก็มาถึงและนั่งลงตรงศีรษะของเขา และกล่าวว่า "โอ้จิตวิญญาณที่ชั่วช้า จงออกไปสู่ความเกลียดชังและความโกรธกริ้วของอัลลอฮฺเถิด" ว่าแล้ววิญญาณก็ถูกแยกออกจากร่าง และมะละกุลเมาตฺก็จะกระชากมันเหมือนกับกระชากเหล็กที่มีหนามแหลมมากมายออกจากขนสัตว์อันเปียกชุ่ม โดยมันจะตัดหลอดเลือดและเส้นประสาทต่างๆ (มุสนัดอะฮฺหมัด 4/287-288)





และไม่อนุญาตให้มุสลิมคนใดร้องขอความตายถึงแม้ว่าเขาจะพบกับการทดสอบที่หนักหน่วงรุนแรงจากอัลลอฮฺ อุมมุล ฟัฎลฺ เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม มาเยี่ยมอัล-อับบาส ขณะที่เขาครวญครางและร้องขอความตาย ท่านนบีจึงกล่าวว่า: "โอ้อับบาส โอ้ลุงของท่านเราะสูล ท่านอย่าปรารถนาความตายเลย หากท่านคือผู้ที่ทำความดี ความดีของท่านจะเพิ่มพูนยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ดีสำหรับท่าน และหากท่านเป็นผู้ที่กระทำผิด ดังนั้น หากความตายล่าช้าไป ก็จงขออภัยโทษ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ดีสำหรับท่าน ดังนั้น ท่านจงอย่างปรารถนาความตายอีกเลย" (มุสนัดอะหฺมัด 6/339)





ท่านอนัส เล่าว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า:





«لَا يَتَمَنَّيَنَّ أَحَدٌ مِنكُمُ الَموْتَ لِضُرٍّ نَزَلَ بِهِ ، فَإِنْ كَانَ لَا بُدَّ مُتَمَنِّياً للموتِ فَلْيَقُلْ: اللهم أَحْيِنِي مَا كَانَتِ الحَيَاةُ خَيْراً لِي ، وَتَوَفَّنِي إِذَا كَانَتِ الوَفَاةُ خَيْراً لِي» [البخاري 6351، ومسلم 2680]





ความว่า: "คนหนึ่งคนใดจากพวกท่านอย่าได้ปรารถนาความตายเนื่องจากทุกข์ภัยความลำบากที่เกิดขึ้นกับเขา แต่หากจะปรารถนาความตาย จงกล่าวว่า: โอ้อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงให้ฉันมีชีวิตอยู่ หากการมีชีวิตนั้นดีสำหรับฉัน และขอพระองค์ทำ ให้ฉันตาย หากความตายนั้นดีสำหรับฉัน" (อัล-บุคอรียฺ 6351 มุสลิม 2680 )





และเป็นหน้าที่สำหรับมนุษย์ทุกคนที่จะต้องเตรียมตัวรับความตาย ก่อนที่มันจะมาถึง ด้วยการรีบปฏิบัติคุณงามความดี ก่อนที่วาระสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง





แน่นอนว่าพระผู้อภิบาลของเรานั้นทรงส่งเสริมให้เราตักตวงโอกาสในยามว่าง โดยพระองค์ตรัสถึงผู้ที่ประมาทเมื่อเขาพบกับความตายว่า:





﴿ حَتَّىٰٓ إِذَا جَآءَ أَحَدَهُمُ ٱلۡمَوۡتُ قَالَ رَبِّ ٱرۡجِعُونِ ٩٩ لَعَلِّيٓ أَعۡمَلُ صَٰلِحٗا فِيمَا تَرَكۡتُۚ كَلَّآۚ إِنَّهَا كَلِمَةٌ هُوَ قَآئِلُهَاۖ وَمِن وَرَآئِهِم بَرۡزَخٌ إِلَىٰ يَوۡمِ يُبۡعَثُونَ ١٠٠ ﴾ [المؤمنون : 99-100]





ความว่า "จนกระทั่งเมื่อความตายได้มาหาคนใดในพวกเขา เขาก็จะกล่าวขึ้นว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งเถิด เพื่อข้าพระองค์จะได้กระทำความดีในสิ่งที่ข้าพระองค์ปล่อยทิ้งไว้ เปล่าเลย มันเป็นเพียงถ้อยคำที่เขากล่าวมันไว้เท่านั้น และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระทั่งถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา” (อัลมุอ์มินูน 99-100)





และตรัสว่า:





﴿ يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ لَا تُلۡهِكُمۡ أَمۡوَٰلُكُمۡ وَلَآ أَوۡلَٰدُكُمۡ عَن ذِكۡرِ ٱللَّهِۚ وَمَن يَفۡعَلۡ ذَٰلِكَ فَأُوْلَٰٓئِكَ هُمُ ٱلۡخَٰسِرُونَ ٩ وَأَنفِقُواْ مِن مَّا رَزَقۡنَٰكُم مِّن قَبۡلِ أَن يَأۡتِيَ أَحَدَكُمُ ٱلۡمَوۡتُ فَيَقُولَ رَبِّ لَوۡلَآ أَخَّرۡتَنِيٓ إِلَىٰٓ أَجَلٖ قَرِيبٖ فَأَصَّدَّقَ وَأَكُن مِّنَ ٱلصَّٰلِحِينَ ١٠ ﴾ [المنافقون : 9-10]





ความว่าโอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย อย่าให้ทรัพย์สินของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้าหันเหพวกเจ้าจากการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และผู้ใดกระทำเช่นนั้น ชนเหล่านั้นคือพวกที่ขาดทุน และจงบริจาคจากสิ่งที่เราได้ให้ปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้าก่อนที่ความตายจะเกิดขึ้นแก่ผู้ใดในหมู่พวกเจ้า แล้วเขาก็จะกล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ มาตรว่าพระองค์ท่านทรงผ่อนผันให้แก่ข้าพระองค์อีกชั่วเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อที่ข้าพระองค์จะได้บริจาคและข้าพระองค์ก็จะอยู่ในหมู่คนดีทั้งหลาย (ผู้ทรงคุณธรรม") อัล-มุนาฟิกูน 9-10)





ท่านอิบนุอุมัร เล่าว่า : ท่านเราะสูลลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จับไหล่ของฉันและกล่าวว่า





«كُنْ فِي الدُّنْيَا كَأَنَّكَ غَرِيْبٌ ، أَوْ عَابِرُ سَبِيْلٍ» [البخاري برقم 6416]





ความว่า "จงใช้ชีวิตในดุนยาดั่งคนแปลกหน้า หรือผู้เดินทาง"





และท่านอิบนุอุมัรได้เคยกล่าวไว้ว่า "เมื่อท่านตื่นขึ้นในยามเช้า จงอย่าคอยเวลาเย็น และเมื่อถึงเวลาเย็น ก็จงอย่ารอให้ถึงเช้า" (อัล-บุคอรียฺ 6416)





และในรายงานของติรมิซียฺระบุว่า "จงถือว่าตัวท่านเป็นผู้ที่อยู่ในหลุมศพ โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ ท่านจะไม่รู้เลยว่า ชื่อของท่านจะเป็นเช่นไร (หมายถึงไม่รู้ว่าชีวิตของท่านในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร)" (อัต-ติรมิซียฺ 2333)





กวีท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า: "โอ้ผู้หมกมุ่นกับดุนยา อยู่กับความปรารถนาที่ไม่สิ้นสุด ความตายจะมาถึงอย่างฉับพลัน สุสานนั้นคือแหล่งสะสมการงาน"





และอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า: "หากว่าเราตายแล้วเราถูกเพิกเฉย ความตายก็คงจะเป็นยอดปรารถนาของทุกชีวิต แต่นี่เราตายแล้วฟื้นคืน และจะถูกถามถึงทุกสิ่งที่เคยกระทำ"





والحمد لله رب العالمين





وصلى الله وسلم على نبينا محمد وعلى آله وأصحابه أجمعين







กระทู้ล่าสุด

บทบัญญัติเกี่ยวข้องกั ...

บทบัญญัติเกี่ยวข้องกับฝน

มารยาทในการขอดุอาอ์ ...

มารยาทในการขอดุอาอ์

เศาะดะเกาะฮฺที่เป็นสุ ...

เศาะดะเกาะฮฺที่เป็นสุนัต

ตารางอ่านอัลกุรอานในเ ...

ตารางอ่านอัลกุรอานในเดือน เราะมะฎอน