บทความ





ชีวประวัติของ





ท่านฏ็อลหะฮฺ บิน อุบัยดิลลาฮฺ





] ไทย – Thai – تايلاندي [





ดร.อะมีน บิน อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์





แปลโดย : มาวัดดะห์ จะปะกียา





ตรวจทานโดย : อัสรัน นิยมเดชา





ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต อัล-มุลกอฮฺ





2013 - 1434





 





سيرة طلحة بن عبيد الله





« باللغة التايلاندية »





د. أمين بن عبدالله الشقاوي





ترجمة: مودة بنت إسماعيل لطفي





مراجعة: عصران نيومديشا





المصدر: كتاب الدرر المنتقاة من الكلمات الملقاة





2013 - 1434









ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ





ชีวประวัติของท่านฏ็อลหะฮฺ บิน อุบัยดิลลาฮฺ





แท้จริงมวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ขอพรอันประเสริฐและความศานติจงมีแด่ศาสนทูตของพระองค์ ข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้นไม่มีภาคีหุ้นส่วนใดๆ เทียบเคียงพระองค์ และข้าพเจ้าขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดนั้นเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์





และนี้ก็เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่ถ่ายทอดชีวประวัติของบุรุษผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อประชาติชาติอิสลาม เป็นหนึ่งในเหล่าวีรบุรุษแห่งอิสลาม และเป็นหนึ่งในบรรดาสาวก (เศาะหาบะฮฺ) ของท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เรื่องราวของเศาะหาบะฮฺท่านนี้ อบอวลไปด้วยความหอมหวานของแรงศรัทธาที่เปี่ยมล้น แฝงด้วยบทเรียนอันทรงคุณค่า ทั้งยังให้แง่คิดและแบบอย่างที่ดีเยี่ยมแก่ชนรุ่นหลัง





เศาะหาบะฮฺท่านนี้ ได้เข้าร่วมสงครามเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในทุกสมรภูมิรบ ยกเว้นสงครามบัดรฺ ซึ่งท่านไม่ได้เข้าร่วมเพราะเหตุสุดวิสัย (สงครามบัดรฺเกิดขึ้นในช่วงที่ท่านออกไปค้าขาย ณ เมืองชามท่านจึงไม่ได้เข้าร่วมด้วย - ผู้แปล) แต่หลังจากเสร็จสิ้นสงคราม ท่านเราะสูลก็ได้ให้การตอบแทนแก่ท่านเช่นเดียวกับผู้ที่เข้าร่วมสงคราม และได้แบ่งทรัพย์สินที่ได้จากสงครามให้แก่ท่านด้วยเช่นกัน





ท่านคือหนึ่งในแปดคนที่เข้ารับอิสลามในยุคแรกๆ ท่านมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในเรื่องการรบ เป็นผู้ที่เก่งกาจเรื่องการขี่ม้า และมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ทั้งนี้ ท่านได้สร้างผลงานและวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ในสงครามอุหุด ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จึงกล่าวว่า “สมควรแล้ว” หมายถึงสมควรแล้วที่ท่านจะได้รับสวนสวรรค์เป็นรางวัลตอบแทน ท่านอบูบักรฺเองก็เช่นกัน เมื่อท่านนึกถึงสงครามอุหุด ท่านจะกล่าวว่า “สงครามอุหุดทั้งหมดเป็นวันของชายผู้นั้น (หมายถึงท่านฏ็อลหะฮฺ)





และเมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อพยพไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ท่านได้ผูกพันธะสัญญาความเป็นพี่น้องระหว่างท่านฏ็อลหะฮฺ กับ ท่านอบูอัยยูบ อัล-อันศอรีย์ ท่านฏ็อลหะฮฺยังเป็นหนึ่งในสิบคนที่ท่านเราะสูลได้แจ้งข่าวดีว่าจะเป็นชาวสวรรค์ ท่านยังเป็นหนึ่งในเศาะหาบะฮฺหกท่านที่มีรายงานระบุว่าท่านนบี ศ็อลลัลลฮฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากโลกนี้ไปโดยที่ท่านพึงพอใจในตัวพวกเขา





ท่านผู้นี้คืออัศวินของอิสลาม ฏ็อลหะฮฺ บิน อุบัยดิลลาฮฺ บิน อุสมาน อัล-กุเราะชีย์ อัตตัยมีย์ มีชื่อเล่นว่า อบูมุหัมมัด ท่านเป็นที่รู้จักในนามว่า ฎ็อลฮะฮฺ “อัล-ค็อยรฺ” (ผู้มีความดีงาม) และฏ็อลหะฮฺ “อัล-ฟัยยาฎ” (ผู้ใจบุญ) เพราะความเมตตากรุณาและเผื่อแผ่ของท่าน





มูซาบุตรชายของท่านได้เล่าถึงลักษณะของบิดาของตนว่า “พ่อของฉันเป็นคนผิวขาวอมแดง ร่างไม่สูงมาก ค่อนไปทางเตี้ย อกผายไหล่ผึ่ง และเท้าใหญ่ ในช่วงแรกที่ท่านเข้ารับอิสลาม ท่านได้ถูกทรมานอย่างหนัก ครั้งหนึ่งเนาฟัล อิบนุ คุวัยลิด ได้จับท่านและท่านอบูบักรฺ อัศศิดดีก มาทรมาน โดยมัดทั้งสองเข้าด้วยเชือกเส้นเดียว โดยเผ่าบนูตะมีมไม่ได้ช่วยเหลือพวกท่านแต่อย่างใด เนาฟัลทำการทรมานทั้งสองอย่างสาหัส เพื่อกดดันให้ทั้งสองยอมละทิ้งอิสลาม และกลับไปเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาดังเดิม แต่ด้วยแรงศรัทธาที่มั่นคง ทั้งสองได้ยืนหยัดที่จะเป็นมุสลิมต่อไป และไม่ยอมสยบต่อแรงกดดันที่แสนทรมานนั้นเลยแม้แต่น้อย”





มีหลายเหตุการณ์ที่เศาะหาบะฮฺท่านนี้แสดงออกถึงความเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญและเสียสละเพื่อศาสนา และหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อิสลาม คือเหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามอุฮุด ซึ่งท่านได้เสียสละทั้งแรงกายและแรงใจ เพื่อปกป้องท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากการโจมตีของฝ่ายศัตรู ในสงครามครั้งนั้นเหล่าศัตรูชาวมุชริกีนต่างเข้ามาประชิดท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เพื่อหวังจะคร่าชีวิตของท่านให้ได้ ท่านฏ็อลหะฮฺจึงได้ใช้ร่างกายของตนเองเป็นโล่กำบังรับลูกศรธนู หอกและคมดาบ แทนท่านนบี เพื่อไม่ให้ฝ่ายศัตรูเข้าถึงตัวท่านได้ ในสมรภูมิดังกล่าวท่านได้รับบาดเจ็บถึงยี่สิบสี่แผล จากการถูกแทงด้วยคมดาบและหอกของศัตรู และท่านยังสูญเสียนิ้วมือไปอีกด้วย





มีรายงานจากท่านก็อยสฺ บิน อบี หาซิม เล่าว่า “ฉันเห็นมือของท่านฏ็อลหะฮฺขาด จากการปกป้องท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จากข้าศึกศัตรู ส่วนท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม เองก็ได้รับบาดเจ็บจนฟันตัดหน้าซี่ข้างหัก เป็นแผลที่ริมฝีปาก และมีเลือดไหลบนใบหน้าของท่าน เมื่อท่านฏ็อลหะฮฺเห็นเช่นนั้น ท่านได้หันกลับไปโจมตีศัตรูที่กำลังจู่โจมท่านนบีอย่างกล้าหาญ จนสามารถปกป้องท่านจากการโจมตีของศัตรูเหล่านั้นได้ทั้งหมด แล้วท่านก็หันไปหาท่านนบี และพยุงท่านขึ้นไปบนเนินเขา” (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 3724)





ในอีกรายงานหนึ่งท่านซุเบรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า “ในสงครามอุหุด ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ถือโล่สองข้าง เมื่อท่านจะขึ้นไปที่โขดหินท่านไม่สามารถที่จะทรงตัวขึ้นไปได้ (ด้วยความหนักของโล่ และความเหนื่อยล้าของร่างกาย) ท่านฏ็อลหะฮฺจึงนั่งให้ท่านเราะสูลเหยียบบนตัวท่าน เพื่อก้าวขึ้นไปบนโขดหิน จนท่านสามารถยืนทรงตัวบนโขดหินได้ แล้วฉันได้ยินท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า ‘สมควรแล้วท่านฏ็อลหะฮฺ’ คือสมควรแล้วสำหรับเขา ที่จะได้เข้าสวนสวรรค์” (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 3738)





และมีรายงานซึ่งบันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ และมุสลิม จากท่านอบูอุษมาน เล่าว่า “ไม่เหลือใครที่อยู่เคียงข้างท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในตอนนั้น นอกจากท่านฏ็อลหะฮฺ และท่านสะอัด” (หะดีษเลขที่ 3722)





และหนึ่งในความประเสริฐที่ยิ่งใหญ่ของท่านฏ็อลหะฮฺ คือสิ่งที่ปรากฏในรายงานซึ่งบันทึกโดยอัตติรมิซีย์ จากท่านญาบิรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า





« مَنْ سَرَّهُ أَنْ يَنْظُرَ إِلَى شَهِيدٍ يَمْشِي عَلَى وَجْهِ الأَرْضِ فَلْيَنْظُرْ إِلَى طَلْحَةَ بْنِ عُبَيْدِ اللَّهِ »





ความว่า “ผู้ใดมีความยินดีที่จะเห็นชะฮีดเดินอยู่บนหน้าแผ่นดินก็จงมองไปยังฏ็อลหะฮฺ บิน อุบัยดิลลาฮฺ” (หะดีษเลขที่ 3739)





และในรายงานอีกบทหนึ่ง ท่านมูซา บิน ฏ็อลหะฮฺ ได้เล่าว่า ฉันได้เข้าไปหาท่านมุอาวิยะฮฺ แล้วท่านก็กล่าวแก่ฉันว่า ฉันจะแจ้งข่าวดีแก่ท่านเอาไหม? ฉันได้ยินท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ฏ็อลหะฮฺ คือหนึ่งในผู้ที่ได้พลีชีพเพื่อหนทางของอัลลอฮฺ“ (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 3740)





นักวิชาการระบุว่า หะดีษข้างต้นอธิบายได้ว่าท่านได้เสียสละชีวิตของท่านเพื่อหนทางของอัลลอฮฺ จนไม่เหลืออะไรเลยระหว่างท่านกับความตาย เหมือนกับคนที่ได้ตายชะฮีดไปแล้ว แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่อีกก็ตาม





เป็นที่รู้กันว่าท่านฏ็อลหะฮฺเป็นผู้ที่มีความกรุณาเผื่อแผ่ รักการให้ทาน และมีความมุ่งมั่นอุตสาหะ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงถูกขนานนามว่า “ฏ็อลหะฮฺผู้ใจบุญ”





ท่านเกาะบีเศาะฮฺ บิน ญาบิรฺ เราะฎิยัลลอฮุฮันฮฺ กล่าวว่า “ฉันได้เป็นสหายกับท่านฏ็อลหะฮฺ แล้วฉันก็ไม่เคยเห็นใครที่มอบทรัพย์สินของตนเองเป็นจำนวนมากแก่ผู้อื่นโดยที่ไม่ทันจะได้ถูกขอเช่นท่านฏ็อลหะฮฺ”





อัลหาฟิซ อิบนุหะญัรฺ ได้ระบุในหนังสือ อัล-อิศอบะฮฺ ของท่านว่า “ท่านฏ็อลหะฮฺถูกสังหารโดย มัรวาน บิน อัล-หะกัม ในสงคราม อัลญะมัล” ส่วนยะอฺกูบ บิน สุฟยาน ได้บันทึกไว้ในหนังสือ อัลมะอฺริฟะฮฺ วัตตารีค จากก็อยสฺ บิน อบีหาซิม เล่าว่า “ในสงครามอัลญะมัลเมื่อมัรวานเห็นท่านฏ็อลหะฮฺ ก็กล่าวขึ้นว่า ชายผู้นี้คือคนหนึ่งที่มีส่วนในการสังหารท่านอุษมาน ว่าแล้วเขาก็ได้ยิงลูกธนูไปที่หัวเข่าของท่านฏ็อลหะฮฺ ทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดกระทั่งท่านเสียชีวิต” (อัล-อิศอบะฮฺ เล่ม 3 หน้า 292 โดย อิบนุหะญัรฺระบุว่าเป็นสายรายงานที่ถูกต้อง)





อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “เราขอเป็นพยานยืนยันต่ออัลลลอฮฺว่าเราเกลียดชังบรรดาผู้ที่สังหารเศาะหาบะฮฺเช่น ท่านฏ็อลหะฮฺ ท่านซุเบรฺ หรือท่านอะลี และเราขอยืนยันต่อพระองค์ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขาเหล่านั้น ทั้งนี้ เราขอมอบหมายการตัดสินสิ่งที่พวกเขากระทำให้เป็นสิทธิ์ของพระองค์” (ตารีค อัล-อิสลาม หน้า 654 โดยย่อ)





หลังสงครามอัลญะมัล ท่านอิมรอน บิน ฏ็อลหะฮฺได้เข้าไปหาท่านอะลี บิน อบี ฏอลิบ ท่านอะลีได้ต้อนรับและเชิญให้ท่านอิมรอนเข้าไปใกล้ท่าน พร้อมกล่าวว่า ฉันหวังว่าอัลลอฮฺจะทรงให้ฉัน บิดาของท่าน และท่านซุเบรฺ บิน เอาวาม ได้อยู่ในหมู่ผู้ที่ถูกกล่าวถึงว่า





﴿ وَنَزَعۡنَا مَا فِي صُدُورِهِم مِّنۡ غِلٍّ إِخۡوَٰنًا عَلَىٰ سُرُرٖ مُّتَقَٰبِلِينَ ٤٧ ﴾ [الحجر: ٤٧]





ความว่า “และเราได้ขจัดความขุ่นแค้นที่มีอยู่ในหัวอกของพวกเขา ให้กลายเป็นพี่น้องกัน โดยพำนักอยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน” (อัล-หิญรฺ: 47)





ท่านเสียชีวิตในปีฮิจญฺเราะฮ์ศักราชที่ 36 เดือนญุมาดัลอาคิรฺ ขณะที่อายุได้ 64 ปี





ขออัลลอฮฺทรงพอพระทัยต่อท่านฏ็อลหะฮฺ และทรงตอบแทนท่านในความดีงามที่ท่านสร้างไว้เพื่ออิสลามและชาวมุสลิมด้วยการตอบแทนที่ดีที่สุด และขอให้เราได้อยู่ร่วมกับท่านในสวนสวรรค์อันมีเกียรติของพระองค์ด้วยเถิด





وسبحانك اللهم وبحمدك، أشهد أن لا إله إلا أنت، أستغفرك وأتوب إليك







กระทู้ล่าสุด

การตอบแทนสำหรับผู้หญิ ...

การตอบแทนสำหรับผู้หญิง ในสรวงสวรรค์

ความละอาย และคำสั่งใช ...

ความละอาย และคำสั่งใช้ให้ละอาย

เยาวชนหนุ่มสาว ในยุคส ...

เยาวชนหนุ่มสาว ในยุคสมัยของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม

ความอ่อนโยนและความสุข ...

ความอ่อนโยนและความสุขุม