บทความ

ฟิ ตนะฮฺที่เกิดจากสตรีฟิ ตนะฮฺที่เกิดจากสตรี


 ไทย 


ดร.อะมีน บนิ อับดุลลอฮฺ อัช-ชะกอวีย์


แปลโดย : อุศนา พ่วงศิริ


ตรวจทานโดย : อัสรัน นิยมเดชา


ที่มา : หนังสือ อัด-ดุร็อรฺ อัล-มุนตะกอฮฺ มิน อัล-กะลีมาต


อัล-มุลกอฮฺ





ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานีย่งิ เสมอ


ฟิ ตนะฮทฺ ่เี กดิ จากสตรี


มวลการสรรเสริญเป็นสทิ ธิ์ของอลั ลอฮฺ ขอความสขุ ความจำเริญ


และศานติจงประสบแด่ศาสนทูตของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณ


วา่ ไมมี่พระเจ้าอื่นใดนอกจากอลั ลอฮฺเพียงองค์เดียว ไม่มีภาคี


ใดๆ สำหรับพระองค์ และฉันขอปฏิญาณว่ามุหัมมัดเป็นบ่าว


ของอลั ลอฮฺและเป็นศาสนทตู ของพระองค์


ฟิตนะฮประการหนงึ่ ที่มุสลิมทัง้ หลายมกั ประสบพบเจอ


ในชีวิตประจำวัน คือฟิตนะฮฺจากสตรี ฟิตนะฮฺนีนั้น้ เกิดขึน้ ได้ใน


ตลาด ตามท้องถนน ในชุมชนทวั่ ไป หรือแม้ กระทงั่ จาก


หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร หรือสื่อตา่ งๆ อลั ลอฮฺ ตะอาลา ตรัสวา่





ความวา่ “ได้ถูกทาํ ให้สวยงาม (ลุ่มหลง) แก่มนุษย์ซึ่งความ


รักในบรรดาสิ่งท่เี ป็ นเสน่ห์อันได้แก่ผู้หญงิ และลูกชาย


ทองและเงนิ อันมากมาย และม้าดีและปศุสัตว์ และไร่นา


นั่นเป็ นสิ่งอาํ นวยประโยชน์ชั่วคราวในชีวิตความเป็ นอยู่


แห่งโลกนี้เท่านั้น และอัลลอฮฺนั้น ณ พระองค์ คือที่กลับ


อันสวยงาม” (อาลอิมรอน: 14)


ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ได้เตือน


ประชาชาติของท่านให้ระวังฟิตนะฮฺจากสตรี ดังหะดีษที่ท่านอบู


สะอีด อลั -คดุ รียฺ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เลา่ วา่ ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอ


ฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “ไม่มีฟิ ตนะฮใฺ ดหลังจากที่ฉันจากพวกท่านไปแล้ว


จะเป็ นอันตรายย่งิ สาํ หรับบุรุษ มากไปกว่าฟิ ตนะฮฺ ที่เกิด


จากสตรี” (บนั ทกึ โดยอลั -บุคอรียฺ หะดีษเลขที่ ๕๐๙๖ และ


มุสลิม หะดีษเลขที่ ๒๗๔๐)


5


และทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ได้บอกพวก


เราว่า ฟิตนะฮฺแรกที่บนีอิสรออีลประสบพบเจอก็คือฟิตนะฮฺจาก


สตรี โดยทา่ นอบสู ะอีด อลั -คดุ รียฺ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เลา่ วา่


ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “แท้จริงโลกดุนยานัน้ สวยงามและอุดมสมบูรณ์


และอัลลอฮไฺ ด้ทรงให้พวกท่านเป็ นตัวแทนในดุนยา แล้ว


พระองค์ก็จะทรงดูว่าพวกท่านทาํ อะไรไปบ้าง? ดังนัน้ พวก


ท่านจงพงึ ระวังโลกดุนยาและบรรดาสตรี เพราะแท้จริง


ฟิ ตนะฮแฺ รกที่ เกิดขึน้ ในหมู่ บนีอิสรออีล ก็คือฟิ ตนะฮฺจาก


สตรีนั่นเอง” (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษเลขที่ ๒๗๔๒)


และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้บอกอีกว่าผู้ที่สามารถอดทนต่อฟิตนะฮฺนี้ได้ เขาจะได้เป็นหนึ่งในเจ็ดกลุ่มที่พระองค์อัลลอฮฺจะทรงให้พวกเขาอยู่ภายใต้ร่มเงาของพระองค์ในวันกิยามะฮฺ ดังหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุร็อย


6


เราะฮฺ เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เลา่ วา่ ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิ


วะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “มีคนเจ็ดกลุ่มท่พี ระองค์อัลลอฮจฺ ะทรงให้พวก


เขาได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของพระองค์ ในวันท่ไี ม่มีร่มเงา


ใดๆนอกจากร่มเงาของพระองค์... (และหนงึ่ ในเจ็ดกลุ่มที่


ทา่ นกลา่ วถึงก็คือ) ชายซึ่งได้รับการเชิญชวนจากหญิงสาวที่


เพียบพร้อมด้วยฐานะและความงามให้กระทาํ สิ่งที่ผิด แต่


เขากลับตอบนางว่า : ฉันเกรงกลัวพระเจ้าของฉัน” (บันทึก


โดยอัล-บุคอรียฺ หะดีษเลขที่ ๑๔๒๓ และมุสลิม หะดีษเลขที่


1031)


ท่านกอฎียฺอิยาฎ กล่าวว่า "ที่ต้องเฉพาะเจาะจงหญิงสาวที่เพียบพร้อมไปด้วยฐานะและความงาม ก็เพราะสิ่งดังกล่าวเป็นคุณสมบัติที่ชายหนุ่มทุกคนถวิลหาและยากที่จะได้มา ดังนั้น เมื่อนางมีพร้อมทุกอย่างและยังเป็นฝ่ายเสนอตัว


7


แน่นอนว่าเป็นการยากที่ใครจะปฏิเสธ ฉะนัน้ ผู้ที่สามารถอดทน


อดกลนั้ ตอ่ สิ่งดงั กลา่ วได้เพราะเกรงกลวั ตอ่ อลั ลอฮฺ จงึ เป็นการ


แสดงให้เห็นถึงการฏออัตเชื่อฟังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์จึงจัดให้


คนประเภทนีไ้ ด้อยู่ภายใต้ร่มเงาของพระองค์ ซงึ่ สตรีที่มีฐานะ


คือสตรีที่พร้อมไปด้วยเงินทองและเชือ้ สายวงศ์ตระกลู ที่มี


เกียรติ" (เศาะฮีหฺมสุ ลิม บชิ รั หฺ อนั นะวะวีย์ ๓/๑๒๒)


อลั ลอฮฺตรัสถึงบคุ คลประเภทนีว้ า่ :





ความวา่ “และส่วนผู้ท่หี วาดหวั่นต่อการยืนเบือ้ งหน้าพระ


เจ้าของเขา และได้หน่วงเหนี่ยวจิตใจจากกิเลสต่าํ ดงั นัน้


สวนสวรรค์ก็จะเป็ นท่พี าํ นักของเขา” (อลั -นาซิอาต: 40-41)


และตวั อยา่ ง สำคญั ของผ้ทู ี่มีความอดทนตอ่ ฟิตนะฮฺ


จากสตรีนี ้ก็คือท่านนบียูสุฟ ผู้เป็นบุตรนบียะอฺกูบ ซงึ่ เป็นบุตร


ของนบีอิสหาก บุตรนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิมุสสลาม โดยอัลลอฮฺ


ตรัสเลา่ เรื่องราวของทา่ นว่า


8





ความวา่ “และสตรีซึ่งเขาอาศัยอยู่ในบ้านของนางก็ได้


ยั่วยวนเขา โดยนางได้ปิ ดประตูอย่างแน่น หนาและกล่าว


ว่า มานี่สิฉันพร้อมแล้ ว! เขากล่าวว่า ฉันขอความคุ้มครอง


ต่ออัลลอฮฺ แท้จริงเขาเป็ นนายของฉัน ให้ท่พี ักพงิ ท่ดี ีย่งิ


แก่ฉัน แท้จริงบรรดาผู้อธรรมจะไม่บรรลุความสาํ เร็จ” ( ยู


สุฟ: 23)


แต่ทว่าท่านนบียูสุฟเลือกที่จะถูกจองจำในคุกเพื่อให้


พ้นจากฟิตนะฮฺนี ้อลั ลอฮฺตรัสวา่





ความว่า “เขากล่าวว่า: ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ คุกนั้นเป็นที่รักแก่ข้าพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งที่พวกนางเรียกร้องข้าพระองค์ไปสู่มัน และหากพระองค์มิทรงให้อุบายของพวกนางพ้นไปจากข้าพระองค์แล้ว ข้าพระองค์อาจจะโน้ม


9


เอียงไปหาพวกนาง และข้าพระองค์จะเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้โง่เขลาอย่างแน่แท้” (ยูสุฟ: 33)


อิบนุลก็อยยิม กล่าวว่า "อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสถึงท่านนบียูสุฟ ว่าท่านคือผู้ที่มีความบริสุทธิ์และมีเกียรติที่สุด ทั้งนี้ ก็เพราะว่าท่ามกลางปัจจัยต่างๆที่อาจชักนำไปสู่หนทางใฝ่ตํ่า ไม่ว่าการที่ท่านยังหนุ่มยังแน่น ซึ่งผู้ที่อยู่ในวัยนี้ก็ย่อมมีความต้องการในเรื่องนี้สูง อีกทั้งท่านยังคงโสดไม่มีภาระผูกพันใดๆ และยังเป็นผู้ที่อยู่ห่างไกลจากครอบครัวและบ้านเมืองของท่าน จึงไม่ต้องเกรงว่าจะมีญาติพี่น้องหรือผู้ใดล่วงรู้ นอกจากนี้ท่านยังอยู่ในสภาพของทาส ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่เป็นทาสย่อมไม่ต้องคิดอะไรมากเท่ากับผู้ที่เป็นไทเป็นอิสระชน อีกทั้งหญิงสาวที่เสนอตัวให้แก่ท่านก็พรั่งพร้อมด้วยฐานะและความงาม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ประกอบกันล้วนเป็นใจให้กระทำสิ่งต้องห้ามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝ่ายหญิงเองเป็นผู้เสนอตัวให้กับท่าน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามใดๆ และไม่ต้องกลัวว่านางจะปฏิเสธ และนอกจากนางจะเป็นฝ่ายเสนอตัวแล้วนางยังมีความต้องการที่แรงกล้าอย่างแท้จริง มิใช่เพียงเสนอตัวเพื่อที่จะทดสอบว่าท่านนบียูสุฟนั้นเป็นคนดีจริงหรือไม่ และอีก


10


ทั้งนางก็อยู่ในฐานะนายของท่าน และยังกระทำในบ้านของนางเอง โดยที่นางย่อมรู้ดีถึงสถานที่และช่วงเวลาที่เหมาะสม และรอดพ้นจากสายตาของผู้อื่น นอกจากนั้นนางยังลงกลอนประตูอย่างแน่นหนาเพื่อที่จะให้ท่านนบีมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถเข้ามาได้โดยพลการ ทั้งหมดนี้ท่านนบียูสุฟก็ยังปฏิเสธนางและไม่หลงใหลไปกับเล่ห์กลมารยาของนาง โดยท่านเลือกที่จะเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺและสามีของนาง ฟิตนะฮฺที่ท่านนบีต้องประสบพบเจอนี้ถ้าเป็นบุคคลอื่นจากท่านก็มิอาจทราบได้ว่าเขาจะสามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้หรือไม่?" (จากหนังสือบะดาอิอฺ อัตตัฟสีรฺ ๒/๔๔๕-๔๔๖) กวีอาหรับคนหนึ่งกล่าวว่า: "มีคุณลักษณะสี่ประการที่ห้ามฉันมิให้เข้าใกล้สิ่งชั่วร้าย และเป็นสิ่งป้องปรามเตือนสติผู้ที่มีจิตประเสริฐ นั่นคือความละอาย ศาสนา ความชรา และเกียรติศักดิ์ศรี สิ่งเหล่านี้แหละที่มนุษย์พึงปกปักษ์รักษาไว้"


การอดทนต่อฟิตนะฮฺจากสตรีโดยเสียสละความต้องการของตัวเองเพื่อให้ได้มาซึ่งความพอพระทัยของพระองค์อัลลอฮฺนั้น ถือเป็นการงานที่ประเสริฐที่สุดประการหนึ่ง อันจะ


11


ทำให้ผู้เป็นบ่าวได้ใกล้ชิดกับพระเจ้าของเขา มากขนึ้ พระองค์


ตรัสว่า





ความวา่ “และส่วนผู้ท่หี วาดหวั่นต่อการยืนเบือ้ งหน้าพระ


เจ้าของเขา และได้หน่วงเหนี่ยวจิตใจจากกิเลสต่าํ ดงั นัน้


สวนสวรรค์ก็จะเป็ นท่พี าํ นักของเขา” (อลั -นาซิอาต : 40-


41)


ท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านนบี


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความว่า “ขณะที่ชายสามคนกำลังเดินอยู่ปรากฏว่าเกิดฝนตกกระหนํ่าหนัก พวกเขาจึงเข้าไปหลบอยู่ในถํ้าของภูเขาลูกหนึ่ง พลันหินก้อนใหญ่ก็หล่นลงมาปิดมิดปากถํ้า ทำให้พวกเขาถูกขังอยู่ข้างใน คนหนึ่งในกลุ่มนั้นกล่าวขึ้นว่า 'พวกท่านจงนึกถึงคุณงามความดีที่พวกท่านได้เคยกระทำไว้เพื่ออัลลอฮฺ แล้วขอวิงวอนต่อพระองค์ เพื่อว่าพระองค์จะทรงเปิดทางให้กับพวกเราด้วยผลแห่งความดีนั้น' ชายคนหนึ่งจึงกล่าวว่า 'โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงฉันนั้นได้เคยหลงรักลูกสาวของลุงมากด้วยความรักแบบหนุ่มสาวทั่วไป ซึ่งฉันเคยขอมีความสัมพันธ์กับนาง แต่นางปฏิเสธและตั้งเงื่อนไขว่าให้หาเงินมาให้นางจำนวนหนึ่งร้อยดีนาร์เสียก่อน ฉันจึงใช้ความเพียรพยายามอย่างหนักจนสะสมเงินได้หนึ่งร้อยดีนาร์และกลับไปหานาง ในระหว่างที่ฉันอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของนาง นางก็พูดขึ้นว่า โอ้บ่าวของอัลลอฮฺ จงยำเกรงต่อพระองค์เถิด และอย่าได้ทำในสิ่งที่ท่านไม่มีสิทธิเลย ฉันจึงผละออกจากนางในทันใด โอ้อัลลอฮฺ ถ้าหากพระองค์รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำนั้นเพื่อพระองค์


13


ขอพระองค์ทรงเปิ ดทางให้พวกเขาด้วยเถดิ ' แล้วพระองค์


ก็ทรงเปิ ดทางให้แก่พวกเขา” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรียฺ หะดีษ


เลขที่ ๒๒๑๕ และมุสลิม หะดีษเลขที่ ๒๗๔๓)


อัลลอฮฺตะอาลาได้สงั่ ใช้ให้บรรดามุอ์มินที่ยังไม่มี


ความสามารถที่จะแตง่ งานได้ให้มีความอดทนอดกลนั้ พระองค์


ตรัสว่า





ความวา่ “และบรรดาผู้ท่ยี ังไม่มีโอกาสแต่งงานก็จงให้เขา


ข่มความใคร่ จนกว่าอัลลอฮจฺ ะทรงให้พวกเขาร่ำรวยขึน้


จากความโปรดปรานของพระองค์” (อันนูร: 33)


และวิธีการป้ องกันตนเองจากฟิตนะฮฺของสตรีนัน้ ก็คือ


การลดสายตาลงต่ำ การรักษาอวยั วะพงึ สงวน และการแตง่ งาน


ที่ถกู ต้องตามหลกั ศาสนา อลั ลอฮฺ ตรัสวา่





ความวา่ “จงกล่าวเถดิ มุหมั มัดแก่บรรดามุอ์มิน ให้พวกเขา


ลดสายตาของพวกเขาลงต่าํ และให้พวกเขารักษาทวาร


ของพวกเขานั่นเป็ นการบริสุทธ์ิย่งิ แก่พวกเขา แท้


จริงอัลลอฮทฺ รงรอบรู้สิ่งท่พี วกเขากระทาํ ” (อนั นูร: 30)


ท่านอิบนุมัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี


ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “โอ้บรรดาหนุ่มสาวทัง้ หลาย ผู้ใดมีความสามารถ


ท่จี ะแต่งงานก็จงแต่งงานเสีย เพราะแท้จริงการแต่งงาน


นัน้ เป็ นการช่วยให้สายตาลดต่าํ และเป็ นการปกป้ อง


อวัยวะเพศจากสิ่งต้องห้าม” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรียฺ หะดีษ


เลขที่ ๕๐๖๖ และมุสลิม หะดีษเลขที่ ๑๔๐๐)


กวีอาหรับกล่าวว่า: “สิ่งไม่ดีทั้งหลายล้วนเริ่มต้นด้วยการมอง เหมือนเช่นเปลวเพลิงโหมไหม้ที่เกิดจากประกายไฟเพียงน้อยนิด ดังนั้นผู้ใดปล่อยสายตาจ้องมองตามอำเภอใจผู้นั้นย่อมตกอยู่ในอันตราย เพราะบางคราดวงเนตรที่จับจ้องอาจ


15


สง่ ผลร้ายตอ่ หวั ใจยิ่งกวา่ ฤทธิ์ของธนู เชน่ นีแ้ ล้วความสขุ ของ


ดวงตาที่ได้มองจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อมันคือสิ่งที่นำมาซึ่ง


โทษอันมิพึงประสงค์”


ทา่ นเราะสลู ลุ ลอฮฺ ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะลยั ฮวิ ะสลั ลมั ได้แจ้ง


ข่าวดีว่าสวรรค์นัน้ จะ ถกู เตรียมไว้ เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่สามารถ


สงวนรักษาอวยั วะเพศของเขา ดงั หะดีษซงึ่ รายงานโดยสะฮฺล์


บนิ สะอดั เราะฎิยลั ลอฮอุ นั ฮฺ เลา่ วา่ ทา่ นนบี ศอ็ ลลลั ลอฮอุ ะ


ลยั ฮิวะสลั ลมั กลา่ ววา่





ความวา่ “ผู้ใดท่รี ับประกัน กับฉันว่าจะระวังรักษา สิ่งที่อยู่


ระหว่างขากรรไกรทงั้ สองข้างของเขา (ปาก และลิน้ ) และ


สิ่งท่อี ยู่ระหว่างขาทงั้ สองข้างของเขา (อวัยวะเพศ) ฉันจะ


รับประกันสวรรค์ให้แก่เขา” (บนั ทกึ โดยอลั -บคุ อรียฺ หะดีษ


เลขที่ ๖๔๗๔)



 



กระทู้ล่าสุด

ความแข็งกระด้างของหัว ...

ความแข็งกระด้างของหัวใจ

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ั ...

ข้อคดิ จากสูเราะฮอฺ ัล-หิจญ์รฺ อายะฮทฺ ี่ ๔๕

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อ ...

ห้ามเยาะเย้ยดูถูกผู้อื่น

ความวุ่นวายและการทดสอ ...

ความวุ่นวายและการทดสอบ แห่งโลกดุนยา