บทความ

เราเกิดมาทำไม


     เชื่อว่าหลายๆคนเคยสงสัย และพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองสักครั้งในชีวิตว่าเราเกิดมาทำไม และใครคือผู้สร้างเรามา บ้างก็สรุปเอาเองว่าเป็นแค่ความบังเอิญในการมีชีวิตขึ้นมาพร้อมสติปัญญา จึงไม่พยายามค้นหาจุดประสงค์และต้นตอ ใช้ชีวิตไปวันๆตักตวงความสุขสราญตามแต่โอกาสจะเอื้อ แล้วก็ตายลง หากเป็นเช่นนั้นจริงมนุษย์จะต่างอะไรไปจากพืชและสัตว์ ที่มีชีวิตแต่ไร้สติปัญญาจะคิดใคร่ครวญ  อัลลอฮ์ตรัสในอัลกุรอ่านว่า


“และพวกเขากล่าวว่า ไม่มีชีวิตอื่นใดหรอก นอกจากการมีชีวิตของเราในโลกนี้ เราจะตายไป และเราจะมีชีวิตอยู่ และไม่มีสิ่งใดจะมาทำลายเราได้ (ให้เราตาย) นอกจากกาลเวลาเท่านั้น สำหรับพวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลย นอกจากพวกเขาเดาเอาเท่านั้น” (อัลกุรอ่าน บท อัลญาษิยะห์ 24)


และแน่นอน พระองค์ไม่ได้สร้างมนุษย์มาอย่างไร้ประโยชน์ หรืออยู่ไปแต่ละวันโดยไม่มีเป้าหมาย พระองค์ได้ตรัสว่า


ความว่า " พวกเจ้าคิดหรือว่า แท้จริงเราได้ให้พวกเจ้าบังเกิดมาโดยไร้ประโยชน์ และแท้จริงพวกเจ้าจะไม่กลับไปหาเรากระนั้นหรือ” (อัลกุรอ่าน บท อัลมุมินูน 115 )


        เช่นเดียวกัน การเกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาย่อมมาจากการสร้าง มันจะบังเอิญโผล่ขึ้นมาเองมันเป็นไปไม่ได้ คราใดที่มนุษย์คิดจะสร้างหรือผลิตอะไรขึ้นมาสักหนึ่งอย่าง ย่อมมีจุดประสงค์ในการสร้างนั้น สร้างบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย สร้างเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆเพื่ออำนวยความสะดวก การสร้างที่ไม่มีจุดประสงค์จึงเป็นไปไม่ได้ 


       พระองค์ได้สร้างมนุษย์มาในโลกนี้ และได้ให้ปัจจัยยังชีพต่างๆแก่พวกเขา เพื่อให้พวกเขาเป็นบ่าวที่มีการเคารพภักดี มีความยำเกรงต่อพระองค์ ขอบคุณในความโปรดปรานทั้งหลายของพระองค์ และเพื่อให้พวกเขาเป็นตัวแทนของพระองค์ ปกครองพื้นพิภพนี้โดยธรรม ด้วยการปฏิบัติตามข้อสั่งใช้ และละทิ้งจากสิ่งที่ถูกสั่งห้าม ช่วยกันส่งเสริมให้ทำความดี ห้ามปรามความชั่วร้าย ทำดีต่อเพื่อนมนุษย์ และเมตตาต่อสัตว์ มีจรรยามารยาทที่ดีงาม มีการปฏิบัติตนที่ดีงามในสังคม ทำมาหากินโดยถูกต้องและชอบธรรม ด้วยเหตุนี้ที่พระองค์ได้ส่งบรรดาศาสนทูตและทรงประทานคัมภีร์เพื่อเป็นทางนำแห่งชีวิต พระองค์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอ่านว่า


ความว่า " และข้ามิได้สร้างญิน(สิ่งมีชีวิตที่เร้นลับ) และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า (56) ข้าไม่ต้องการปัจจัยยังชีพจากพวกเขา และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาให้อาหารแก่ข้า (57) แท้จริงอัลลอฮฺ คือผู้ประทานปัจจัยยังชีพอันมากหลาย ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงมั่นคง" ( อัลกุรอ่าน บท อัซซาริยาต 56-58 )


และพระองค์ได้ทรงกล่าวว่า


"โอ้มนุษย์เอ๋ย จงสักการะภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเจ้า ที่ทรงบังเกิดพวกเจ้า และบรรดาผู้ที่มาก่อนพวกเจ้าเถิด เพื่อว่าพวกเจ้าจะมีความยำเกรง (21) คือผู้ทรงให้แผ่นดินเป็นที่นอน และฟ้าเป็นอาคาร แก่พวกเจ้า และทรงให้น้ำหลั่งลงมาจากฟากฟ้า แล้วได้ทรงให้บรรดาพืชพรรณออกมา เนื่องด้วยน้ำนั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่าให้มีผู้เท่าเทียมใดๆ ขึ้น สำหรับอัลลอฮ์ โดยที่พวกเจ้าก็รู้กันอยู่(ว่าพระองค์คือพระเจ้าที่แท้จริงเพียงองค์เดียว) " 


                                                           ( อัลกุรอ่าน บท อัลบากอเราะห์ 21-22 )


         และอัลลอฮ์ได้ตรัสอีกว่า


“และจงรำลึกถึงขณะที่พระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่เทวทูตว่า แท้จริงข้า(อัลลอฮ์)จะให้มีผู้แทนขึ้นในพิภพนี้  บรรดาเทวทูตได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งเป็นผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือดบนหน้าแผ่นดินกระนั้นหรือ ทั้งๆที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความความศักดิ์สิทธิ์แด่พระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้”  (อัลกุรอ่าน บท อัลบากอเราะห์ 30)


         และอัลลอฮ์ได้ตรัสอีกว่า  


"พระผู้ทรงให้มีความตายและให้มีความเป็น เพื่อจะทดสอบพวกเจ้าว่า ผู้ใดบ้างในหมู่พวกเจ้าที่มีผลงานดียิ่ง และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงให้อภัยเสมอ"


                                                                     (อัลกุรอ่าน บท อัลมุลก์ 2)


      ดังกล่าวนี้จึงบ่งบอกถึงพระประสงค์ของพระองค์ในการสร้างชีวิตต่างๆ เพื่อที่มนุษย์จะรู้จักต่อผู้สร้าง รู้จักตนเอง รู้จักผู้มอบชีวิตให้กับเขา ผู้ทรงประทานทางนำ สัจธรรมคำสอนเพื่อให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างดีงาม ใช้คุณธรรม ยุติธรรมและความเกรงกลัวต่อพระผู้เป็นเจ้าในการปกครองบ้านเมือง  ผู้ทรงทดสอบเขาด้วยสภาวะต่างๆทั้งสุขและทุกข์ เพื่อที่พวกเขาจะตั้งคำถามต่อชีวิตและแสวงหาคำตอบ เพื่อที่พวกเขาจะรู้คุณในความเมตตาของพระองค์ ผู้ทรงเป็นเจ้าของชีวิตทั้งมวล และพระองค์ทรงห้ามปวงบ่าวกราบไหว้หรือสักการะต่อสิ่งอื่นจากสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย นอกจากพระองค์เท่านั้น และพระองค์ได้ห้ามการยึดเอาสิ่งอื่นขึ้นเป็นสื่อกลาง หรือการนำเอาสิ่งอื่นจากสิ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นภาคีร่วมกับพระองค์


          มีหลายศาสนาที่อุบัติขึ้นในโลกใบนี้ ที่มนุษย์ได้ตั้งขึ้นมาเองเพื่อให้เป็นศาสนาระหว่างมนุษย์ด้วยกัน และพระองค์จะไม่ทรงตอบรับศาสนาใดๆนอกจากอิสลามเท่านั้น  พระองค์ได้ตรัสว่า


ความว่า "และผู้ใดแสวงหาศาสนาใดอื่นจากศาสนาอิสลามแล้ว (ศาสนานั้น)ก็จะไม่ถูกรับจากเขา และในโลกหน้า เขาจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน"  (อัลกุรอ่าน บท อาลิอิมรอน 85 )





    อย่างไรก็ดี แม้มนุษย์และบรรดาญิน(สิ่งมีชีวิตที่เร้นลับ) จะไม่เชื่อฟังหรือ เนรคุณต่อพระองค์ อัลลอฮ์ก็มิได้ทรงสูญเสียเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ใดๆเลย  ทว่าพวกเขาต่างหากที่จำเป็นจะต้องค้นหาสัจธรรม ของคำถามที่ว่า เราเกิดมาทำไม? ซึ่งก็คือเป้าหมายของการมีชีวิต เพื่อค้นพบสัจธรรมคำสอน และใช้ชีวิตที่ได้รับมานี้อย่างมีจุดประสงค์ ตรงตามหนทางอันเที่ยงแท้ ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกำหนดไว้โดยไม่สูญเปล่า ซึ่งอัลลอฮ์นั้นได้ทรงเตรียมการตอบแทนทั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่ และการลงโทษ รอคอยพวกเขาเอาไว้แล้ว



กระทู้ล่าสุด

อานิสงส์ของการถือศีลอ ...

อานิสงส์ของการถือศีลอดหกวันชาวาล

สาส์นอันหนึ่งเดียวเท่ ...

สาส์นอันหนึ่งเดียวเท่านั้น

อิสลามกล่าวถึงอะไรเกี ...

อิสลามกล่าวถึงอะไรเกี่ยวกับการก่อการร้าย

ถ้าพระเจ้าทรงปรานีทุก ...

ถ้าพระเจ้าทรงปรานีทุกสิ่งทำไมความชั่วจึงมีอยู่?